เพรสทีวี – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ ได้ยกย่องว่าเป็น “สัญญาณเชิงบวก” กรณีการตัดสินใจของรัสเซียที่จะเริ่มถอนทหารออกจากสมรถูมิความขัดแย้งในซีเรีย หลังข้อตกลงหยุดยิงเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม
“ความจริงที่รัสเซียประกาศว่าพวกเขาจะถอนกำลังส่วนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องคงกำลังพลในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง” ซารีฟกล่าวว่าในระหว่างที่เขาเยือนออสเตรเลียในวันอังคาร (ที่ 15)
“นั่นแหละ ในตัวมันเองอาจจะเป็นสัญญาณเชิงบวก เราจะต้องรอและดู” รมว.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวเพิ่มเติม
ทหารรัสเซียได้เริ่มถอนกำลังบางส่วนจากซีเรียหลังจากประธานาธิบดีปูตินมีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (ที่ 14)
ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศการตัดสินใจผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ระหว่างประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหมของรัสเซีย มอสโกยกย่องว่าตลอดระยะหกเดือนของปฏิบัติการทางอากาศในซีเรียเป็นไปในเชิงบวก และว่ามันได้สร้างเงื่อนไขมาสู่การเจรจาสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม ปูตินไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนของเครื่องบินรบและทหารที่จะถอนกำลังออกจากซีเรีย
ปูตินออกคำสั่งไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลซีเรียและฝ่ายค้านกลับมาเริ่มต้นใหม่ในกรุงเจนีวาของสวิส จากที่ก่อนหน้านี้การเจรจาหยุดยิงที่ประเทศอาหรับเพิ่งพังไป
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้กล่าวว่า มุมมองการตัดสินใจของมอสโกเป็นกระบวนการในเชิงบวก
ข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียไกล่เกลี่ยโดยรัสเซียและสหรัฐอเมริกาโดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนปี 2015 รัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อผู้การก่อการร้ายในซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ ตามการร้องขอจากรัฐบาลดามัสกัส
ความขัดแย้งในซีเรียซึ่งเริ่มขึ้นในมีนาคม 2011 มีการอ้างว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 470,000 คน ตามตัวเลขของศูนย์ซีเรียเพื่อการวิจัยนโยบาย (Syrian Center for Policy Research)