สัญญาณการฟื้นตัวของกลุ่มสนับสนุนอัสซาดในซีเรีย

เกิดการปะทะอย่างหนักอย่างต่อเนื่องในจังหวัดลาตาเกีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ขณะที่กองกำลังของรัฐบาลซีเรียยังคงรุกคืบเข้าโจมตีกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนอัสซาด / ภาพ โซเชียลมีเดีย

การก่อกบฏโดยกลุ่มย่อยเริ่มปรากฏขึ้นในซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดลาตาเกีย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม อดีตสมาชิกของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้เปิดฉากการโจมตีแบบประสานกันต่อกองกำลังของรัฐบาลเฉพาะกาล

เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนแนวโน้มที่อดีตเจ้าหน้าที่รัฐและนักรบที่เคยภักดีต่ออัสซาดอาจกำลังจัดตั้งเซลล์ก่อความไม่สงบ (insurgent cells) เพื่อต่อต้านอำนาจของรัฐบาลเฉพาะกาลแห่งซีเรีย ภายใต้กลุ่มไฮแอต ตะห์รีร อัชชาม (HTS)

อดีตเจ้าหน้าที่ของอัสซาดมีโครงข่ายด้านการทหาร หน่วยข่าวกรอง การเมือง และอาชญากรรม ซึ่งเคยเป็นรากฐานสำคัญของอำนาจในยุคก่อน การสั่งสมประสบการณ์และทรัพยากรเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดตั้งขบวนการต่อต้านขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และอาจขยายขอบเขตของการโจมตีไปยังพื้นที่ที่เคยเป็นฐานที่มั่นของระบอบอัสซาด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งของซีเรีย

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของขบวนการก่อความไม่สงบคือการใช้ความไม่พอใจของประชาชนเป็นเครื่องมือในการระดมกำลัง อดีตผู้สนับสนุนอัสซาดอาจใช้ข้อกล่าวหาว่าชาวอะลาไวต์ถูกกีดกันทางเศรษฐกิจและถูกรัฐบาลเฉพาะกาลมองว่าเป็นศัตรู แม้ว่าในความเป็นจริง ปัญหาทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มก็ตาม

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลเฉพาะกาลดำเนินมาตรการปราบปรามอดีตสมาชิกของระบอบอัสซาดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ได้กลายเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการตอบโต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเป็นฐานอำนาจของระบอบเก่า รายงานบางฉบับระบุว่ามีการคุกคามและการล้างแค้นเกิดขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มแรงจูงใจให้กลุ่มอดีตเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก่อความไม่สงบ

ในวันเดียวกับที่เกิดเหตุโจมตีในลาตาเกีย อดีตนายพลไกษ์ ดาลาห์ (Gaith Dalah) จากกองพลที่สี่ของกองทัพซีเรีย ได้ประกาศจัดตั้ง “สภาการทหารเพื่อปลดปล่อยซีเรีย” โดยอ้างว่ามีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับ “องค์กรก่อการร้ายญิฮาด” ที่ปกครองซีเรียในปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงรัฐบาลเฉพาะกาลที่นำโดย HTS

แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า ดาลาห์มีบทบาทจริงในการจัดตั้งกลุ่มนี้ หรือเป็นเพียงการใช้ชื่อของเขาเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ขบวนการก่อความไม่สงบ แต่การที่กลุ่มดังกล่าวประกาศตัวขึ้นในวันเดียวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในลาตาเกีย ย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ปฏิกิริยาของรัฐบาลเฉพาะกาลต่อการก่อความไม่สงบในลาตาเกียถือเป็นปัจจัยชี้ขาด หากรัฐบาลเลือกใช้มาตรการรุนแรงโดยไม่แยกแยะระหว่างพลเรือนกับกลุ่มติดอาวุธ อาจส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่หันมาสนับสนุนฝ่ายก่อความไม่สงบแทน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น

การเกิดขึ้นของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เชื่อมโยงกับอดีตเจ้าหน้าที่อัสซาดเป็นสัญญาณที่น่าจับตา และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สงบระลอกใหม่ในซีเรียตะวันตก แม้ว่าความพยายามในการรื้อฟื้นระบอบอัสซาดอาจไม่ประสบความสำเร็จในระยะสั้น แต่ความไม่พอใจของประชาชนต่อรัฐบาลเฉพาะกาลอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ขบวนการก่อความไม่สงบสามารถขยายตัวได้ในอนาคต

สถานการณ์ในซีเรียยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของอำนาจทางทหารและการเมืองในปีต่อไป