ตามรายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า จีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้ ภายหลังจากที่อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวย้ำว่าคำกล่าวดังกล่าวไม่ใช่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
“จีนสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป หวังว่าพวกเขาจะซื้อน้ำมันจากสหรัฐฯ จำนวนมากด้วยเช่นกัน” ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social ไม่กี่วันหลังจากสั่งโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง
เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวชี้ว่า ทรัมป์ต้องการเน้นว่า อิหร่านยังไม่ได้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอิหร่านรายใหญ่ที่สุดของโลก
“ประธานาธิบดียังคงเรียกร้องให้จีนและทุกประเทศหันมาใช้น้ำมันคุณภาพสูงจากสหรัฐฯ แทนที่จะละเมิดมาตรการคว่ำบาตรด้วยการซื้อน้ำมันอิหร่าน” เจ้าหน้าที่กล่าวกับรอยเตอร์
คำกล่าวของทรัมป์ถือเป็นสัญญาณลบต่อตลาดน้ำมันอีกระลอกหลังการประกาศหยุดยิง โดยราคาน้ำมันลดลงเกือบ 6% ในวันอังคาร
หากสหรัฐฯ ผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจริง จะถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีสำคัญ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศกลับมาใช้ยุทธศาสตร์ “กดดันขั้นสูงสุด” ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อผลักดันการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เป็นศูนย์ อันเนื่องมาจากโครงการนิวเคลียร์และการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรโรงกลั่นเอกชน (“Teapot refineries”) และผู้ให้บริการท่าเรือของจีนหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าน้ำมันอิหร่าน
“ไฟเขียวของทรัมป์ที่ให้จีนซื้อน้ำมันอิหร่านต่อสะท้อนถึงมาตรฐานการบังคับใช้ที่ผ่อนปรนลง” สก็อต โมเดลล์ อดีตเจ้าหน้าที่ CIA และซีอีโอของ Rapidan Energy Group กล่าว
เขาคาดว่าแม้ทรัมป์จะไม่บังคับใช้คว่ำบาตรอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่น่าจะระงับหรือยกเว้นคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการในช่วงก่อนการเจรจารอบใหม่กับอิหร่าน เนื่องจากมาตรการเหล่านี้ยังถือเป็นแต้มต่อของสหรัฐฯ ท่ามกลางข้อเรียกร้องของเตหะรานให้ยกเลิกคว่ำบาตรอย่างถาวร
เจเรมี พาเนอร์ หุ้นส่วนสำนักงานกฎหมาย Hughes Hubbard & Reed ระบุว่า หากทรัมป์ต้องการระงับคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านจริง จะต้องประสานงานอย่างมากระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะต้องออกใบอนุญาต และกระทรวงการต่างประเทศต้องออกเอกสารยกเว้นที่ต้องรายงานต่อสภาคองเกรส
ขณะที่ผู้ค้าพลังงานและนักวิเคราะห์ในเอเชียมองว่า คำกล่าวของทรัมป์ไม่น่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นต่อการซื้อน้ำมันของจีนจากทั้งอิหร่านและสหรัฐฯ
ข้อมูลระบุว่า น้ำมันอิหร่านคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 13.6% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดของจีนในปีนี้ ซึ่งมีราคาถูกและเป็นทางรอดสำคัญของโรงกลั่นอิสระในจีน ส่วนการนำเข้าน้ำมันจากสหรัฐฯ คิดเป็นเพียง 2% ขณะที่จีนยังคงเก็บภาษีน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ อยู่ที่ 10% ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขยายการซื้อเพิ่มเติม
จีนคัดค้านมาตลอดว่ามาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ถือเป็น “การใช้อำนาจในทางมิชอบ”
เก๋อ จี้ข่าย (Guo Jiakun) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันพุธว่า จีนจะดำเนินมาตรการด้านความมั่นคงทางพลังงานตามผลประโยชน์ของชาติตนเอง เมื่อถูกถามถึงโพสต์ของทรัมป์ในการแถลงข่าวประจำวัน.








