“ดร.สุรินทร์” อดีตเลขาธิการอาเซียน ประณามเหตุโจมตีบรัสเซลส์ ชี้ไร้มนุษยธรรม ไร้มโนธรรม น่ารังเกียจ และบิดเบือนคำสอนศาสนาอย่างสิ้นเชิง

ดร.สุรินทร์ พิสสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ภาพจากเฟซบุ๊ค Dr.SurinPitsuwan

ดร.สุรินทร์ พิสสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน โพสต์ในหน้าเพจเฟซบุ๊ค ประณามเหตุโจมตีกรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันอังคารที่ 22 มี.ค. 59 ระบุเป็นความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ไร้มโนธรรม ที่น่ารังเกียจที่สุด ชี้กลุ่มก่อการร้ายบิดเบือนคำสอนของศาสนาอย่างสิ้นเชิง

วันนี้ (24 มี.ค.) ดร.สุรินทร์ พิสสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน โพสต์ในหน้าเพจเฟซบุ๊ค Dr.SurinPitsuwan มีเนื้อหาดังนี้

เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ณ กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันอังคารที่ 22 มี.ค. 59 เป็นความโหดร้าย รุนแรง สูญเสีย ที่จะต้องถูกประณามโดยคนทั่วโลก เป็นความโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ไร้มโนธรรม (Conscience) ที่น่ารังเกียจที่สุด

ผมขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างแข็งขันที่สุด ไม่รีรอและไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น ผมไม่สามารถที่จะยอมรับกลุ่มก่อเหตุโศกนาฏกรรมที่นำศาสนามาเป็นข้ออ้าง เพราะสิ่งที่พวกกลุ่มก่อการร้ายกระทำไปนั้นบิดเบือนคำสอนของศาสนาอย่างสิ้น เชิง

ไม่มีศาสนาใดที่จะส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรง ทำลายชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความสูญเสีย โศกนาฏกรรมอย่างไร้ศีลธรรม มโนธรรม เช่นนี้

ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อของความรุนแรงและครอบครัวผู้ได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อการร้ายทั้งที่เกิดขึ้น ณ กรุงปารีสเมื่อเร็วๆนี้ และ กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

แนวทางหนึ่งที่อาจยุติโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ คือ ประชาคมโลกจะต้องหันหน้ามาร่วมมือกันและวิเคราะห์วางแผนการรับมือ แก้ไขปมปัญหา และปราบปรามอย่างจริงจัง การก่อการร้ายหลายครั้งในอดีตพบว่าผู้ก่อเหตุนั้นคือ “คนในพื้นที่” (Home Grown) กล่าวคือเป็นผู้ที่ถือกำเนิดและอาศัยอยู่ภายในยุโรปเอง นั่นอาจจะอนุมานได้ว่าปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และ สถานการณ์ทางการเมืองในยุโรปเองอาจจะนำไปสู่ความรู้สึกแปลกแยก (Alienation) กีดกันหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ (Discrimination) ควรจะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์นโยบายและเงื่อนไขต่างๆทางสังคมทุกด้าน เพื่อความเข้าใจบริบทที่นำไปสู่ปัญหาความรุนแรงดังกล่าวในปัจจุบัน

แต่อย่างไรก็ตาม ผมต้องยืนยันและย้ำความเชื่อที่แน่วแน่ว่า ไม่มีเหตุผลใดในโลกยุคปัจจุบันที่จะยอมรับและให้ความชอบธรรมกับความอุกอาจ ความรุนแรง และ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ณ กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้

ความรุนแรงในลักษณะนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ ไม่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทย ไม่เกิดขึ้นในซูดานใต้ ไม่เกิดขึ้นในอิรัก และไม่เกินขึ้นในลิเบียหรือซีเรีย ไม่ควรจะเกิดขึ้นในที่ใดบนโลกใบนี้อีกเลย

พวกเราควรร่วมกันแสดงจุดยืนที่หนักแน่นและเป็นหนึ่งอันเดียวกับประชาชนใน กรุงบรัสเซลส์ และต้องผนึกกำลัง ผสานความร่วมมือเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายรุนแรง ปราศจากความสำนึกในมนุษยธรรมดังเช่นโศกนาฏกรรมหลายครั้งในอดีต