ในช่วงสองปีที่ผ่านมาอิบรอฮีมได้ให้การดูแลกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่บ้านของตนโดยควักเงินจากกระเป๋าของเขาเอง แต่ก่อนหน้านี้ในปี 2009 เขาคือรองหัวหน้ากลุ่มขวาจัด ในนาม พรรคประชาธิปไตยแห่งชาติเยอรมนี (National Democratic Party of Germany -NPD) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าต่อต้านผู้ลี้ภัยชาวต่างชาติ
เวอร์เนอร์ คลาวุน (Werner Klawun) ตอนนี้รู้จักกันในนามอิบรอฮีม อายุ 75 ปี เขาเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามในปี 2014 และตั้งแต่นั้นมาเขากลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนสำคัญที่สุดที่มีต่อผู้ลี้ภัยซึ่งหนีความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
เมื่ออิบรอฮีมเปลี่ยนศาสนาอิสลาม ภรรยาของเขาได้นำเอาลูกๆ และออกจากบ้านไป เขาก็ได้รับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 4 คน ที่มีอายุระหว่าง 18 – 30 ปีมาอาศัยด้วยนับตั้งแต่นั้นมา
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับนสพ.Bild ของเยอรมนี เขาบอกว่า เขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นมุสลิมหลังจากที่ได้อ่านวรรณกรรมอิสลาม ศึกษาคัมภีร์กุรอ่าน และการอ่านผลงานของนักเขียนเยอรมันและรัฐบุรุษ ‘โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่’ (Wolfgang von Goethe) ที่สรรเสริญยกย่องศาสดามูฮัมหมัด
“เราชาวยุโรปกับแนวความคิดของเรา ไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่มูฮัมหมัดได้บรรุลแล้ว และไม่มีผู้ใดสามารถที่จะนำหน้าเขาได้ ผมได้มองย้อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเพื่อหาแบบฉบับ และพบว่านั่นก็คือมูฮัมหมัด ซึ่งเป็นความจริงที่จะต้องถูกเปิดเผย แน่นอนว่า มูฮัมหมัดประสบความสำเร็จที่จะปราบทั้งโลกให้นับถือพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว” เขาอ่านคำแปลตอนหนึ่งในตำราของเกอเธ่
อิบรอฮีมกล่าวว่า การเปลี่ยนศาสนาของเขาส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางความคิดอย่างสมบูรณ์ และการเพียงแค่ตัดความสัมพันธ์กับพรรค NPD ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงทำให้เขาเริ่มต้นที่จะให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
NPD ก่อตั้งในปี 1964 ในฐานะทายาทพรรครีคเยอรมัน (German Reich Party) และมักจะอธิบายว่าเป็นองค์กรนีโอนาซี (neo-Nazi) ทั้งถูกกล่าวถึงว่า “เป็นพรรคนีโอนาซีที่ที่สำคัญที่สุดซึ่งโผล่ออกมาหลังจากปี 1945″
ยุโรปกำลังเผชิญวิกฤติผู้ลี้ภัยเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีความขัดแย้งจากแอฟริกาและตะวันออกกลางที่พยายามอพยพเข้าไปยุโรป
ในเดือนมกราคม 2016 สถิติอย่างเป็นทางการเผยให้เห็นว่าเยอรมนีได้รับผู้ลี้ภัยใหม่จำนวน 476,649 คน โดยเยอรมันมีประชากรกว่า 80 ล้านคน ในประเทศยุโรปตะวันตกได้ลงทะเบียนผู้ลี้ภัย 1.1 ล้าน ระหว่างเดือนมกราคมและธันวาคม 2015 และคาดว่าอีก 2.5 ล้านที่จะมาถึงในท้ายปี 2020
อ้างอิง : เพรสทีวี