อิหร่านซัด! สหรัฐฯ ปลุกกระแสหวาดกลัวอิหร่าน เพือเพิ่มยอดขายอาวุธกับประเทศอาหรับ

กองกำลังความมั่นคงซาอุดิอาระเบียในขบวนสวนสนาม © Ahmed Jadallah / Reuters

RT – ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวหาว่าเตหะรานให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลางเพื่อปลุกกระแสหวาดกลัวอิหร่าน (Iranophobia) และเพิ่มยอดขายอาวุธของอเมริกาในภูมิภาคนี้ กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวในแถลงการณ์

“อีกครั้งหนึ่ง โดยการอ้างซ้ำๆ และไร้เหตุผลของเขาเกี่ยวกับอิหร่าน ประธานาธิบดีอเมริกัน…พยายามกระตุ้นให้ประเทศในภูมิภาค [ตะวันออกกลาง] ซื้ออาวุธเพิ่มโดยการสร้างกระแสอิราโนโฟเบีย (Iranophobia)” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายบะห์ราม กอซเซมี” กล่าวในวันถัดมาหลังทรัมป์ ได้ลงนามข้อตกลงกับซาอุดิอาระเบียคู่ปรับอิหร่านที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 110 พันล้านเหรียญ

ที่กรุงริยาด ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์กับผู้นำของประเทศมุสลิม 55 ประเทศ ทรัมป์ชี้ไปยังอิหร่านว่าเป็นผู้บ่อนทำลายเสถียรภาพและสร้างความปั่นป่วนในตะวันออกกลาง

“จากเลบานอนไปจนถึงอิรักและเยเมน อิหร่านสนับสนุนอาวุธและฝึกผู้ก่อการร้าย นักรบ และกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ที่ขจายการทำลายล้างและความโกลาหลไปทั่วภูมิภาค” ทรัมป์กล่าวและว่า “นานหลายทศวรรษแล้วที่อิหร่านสุมไฟความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายและสนับสนุนการก่อการร้าย”

ทรัมป์ยังอ้างว่ารัฐบาลอิหร่านซึ่งปัจจุบันนำโดยประธานสายกลาง “ฮัสซัน โรฮานี” “พูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการสังหารหมู่” และสาบานจะสร้างความฉิบหายให้กับอิสราเอลและสหรัฐฯ นอกจากนี้เขายังเรียกร้องกลุ่มพันธมิตรอาหรับของอเมริกาให้โดดเดี่ยวเตหะราน “จนกว่ารัฐบาลอิหร่านจะพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรเพื่อสร้างสันติภาพ”

กอซเซมี สวนกลับว่า วอชิงตันกำลัง “ชุบชีวิตผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคด้วยนโยบายที่ไม่เป็นมิตร (hostile policies)” และ “ควรหยุดขายอาวุธให้กับผู้ก่อการร้ายที่อันตราย”

โฆษกของอิหร่านกล่าวว่า “สหรัฐฯ ควรจะรู้ว่าอิหร่านเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพและมีอำนาจ” ที่จะเสริมสร้าง “สันติภาพ มิตรภาพที่ดี และการสร้างโลกที่ต่อต้านความรุนแรงและความคลั่งไคล้”

ทรัมป์ยังกล่าววิจารณ์ต่อเตหะรานระหว่างการเยือนอิสราเอลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 พ.ค.) และยืนยันว่าอิหร่านจะ “ไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ – ไม่มีทาง” เพราะเขาอ้างว่าสาธารณรัฐอิสลามสนับสนุนผู้ก่อการร้าย

ในทางกลับกัน โรฮานีกล่าวเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ค.) ว่า การสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นไปไม่ได้ที่จะสัมฤทธิผลโดยปราศจากอิหร่าน

“ใคร(ที่กล้า)พูดว่าเสถียรภาพในภูมิภาคสามารถฟื้นตัวได้หากปราศจากอิหร่าน? ใคร(ที่กล้า)พูดว่าภูมิภาคนี้จะมีเสถียรภาพอย่างเบ็ดเสร็จหากปราศจากอิหร่าน?” โรฮานีกล่าว นอกจากนี้เขายังก่นด่าสุนทรพจน์ของทรัมป์ในกรุงริยาด โดยระบุว่าเป็น “งานพิธี [กิจกรรม] ที่ไม่มีคุณค่าทางการเมือง และจะไม่มีผลใดๆ”

โรฮานีกล่าวเพิ่มเติมว่าอิหร่านจะดำเนินโครงการขีปนาวุธต่อไป โดยบอกว่ามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ ด้าน ”สันติภาพ” และ “การป้องกันประเทศ”

“เจ้าหน้าที่อเมริกันควรรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการทดสอบอาวุธทางเทคนิค เราก็จะทำเช่นนั้น และจะไม่รอการอนุญาต” โรฮานีกล่าวในการแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของรัฐตามรายงานของรอยเตอร์ นอกจากนี้เขายังได้วิพากษ์วิจารณ์การขาดประชาธิปไตยของซาอุดิอาระเบีย และกระตุ้นให้ริยาดอนุญาตให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งอย่างเสรี

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 พ.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน นายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ ออกมาซัดนายทรัมป์ที่เอาใจซาอุดีอาระเบีย

“อิหร่าน – สดจากการเลือกตั้งจริง – ถูกโจมตีโดยปธน.สหรัฐฯ ในป้อมปราการของประชาธิปไตยและสายกลาง. นโยบายการต่างประเทศหรือแค่การรีดนมจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 480 พันล้านเหรียญ” เขาเขียนไว้ในทวิตเตอร์

ส่วนในบทความที่เว็บไซต์ al-Araby al-Jadeed ที่มีฐานอยู่ในกรุงลอนดอน ซารีฟได้เรียกร้องให้ทรัมป์ “เจรจากับพวกเขาเกี่ยวกับวิธีป้องกันผู้ก่อการร้ายและพวกตักฟีรี [ซุนนีแนวคิดสุดโต่ง] ให้เลิกสุมไฟในภูมิภาคนี้ และทำซ้ำเหตุการณ์คล้าย 11 กันยายนซึ่งเกิดขึ้นจากผู้สนับสนุนของพวกเขาในประเทศตะวันตก”

เตหะรานและริยาดได้เริ่มทำสงครามน้ำลายโดยกล่าวหากันและกันว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บ่อนทำลายความมั่นคงในตะวันออกกลาง สนับสนุนองค์กรก่อการร้าย และแสวงหาอำนาจในภูมิภาคนี้