วิจารณ์ยับ! ฝ่ายปกครองพัทลุง ตั้งด่านจับ ตร.ชายแดนใต้ ข้อหาพกพาอาวุธสงคราม

วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียล หลังฝ่ายปกครองเมืองพัทลุง บริเวณจุดตรวจท่ามิหรำ ตั้งด่านจับตำรวจ สภ.ยะหา จ.ยะลา ข้อหาพกพาอาวุธสงคราม เจ้าตัวเผยตำรวจใน จชต.ต้องมีอาวุธไว้เพื่อป้องกันตัว

วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวผู้จัดการออนไลน์ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ รายงานว่า ในกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊ก บนสื่อสังคมโซเชียลมีเดียในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของ จ.พัทลุง ที่จับสิบตำรวจตรี ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ยะหา จ.ยะลา ในข้อหามีอาวุธสงคราม ที่นายทะเบียนไม่สามารถให้มีอนุญาต โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกที่จุดตรวจท่ามิหรำ เขตเทศบาลเมือง จ.พัทลุง
ซึ่งในโลกโซเชียลต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองขาดวิจารณญาณ เพราะตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีอาวุธเพื่อป้องกันตัว โดยยกตัวอย่าง ด.ต.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่เพิ่งถูกโจรใต้ยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับรถเก๋งไปรับภรรยาที่เป็น ผอ.โรงเรียน ในเขตเทศบาลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวผู้จัดการได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ที่มีการแชร์กันอย่างล้นหลามในโซเชียล จาก พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ซึ่งถูกในไลน์อ้างว่า เป็นนายตำรวจที่เข้าไปเจรจากับฝ่ายปกครอง เพื่อให้ปล่อยตัว ส.ต.ต.คนดังกล่าว โดยรอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ของการจับกุม ตนเองทราบข่าวหลังมีการบันทึกการจับกุม และมีการให้ประกันตัวแล้ว

โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกตรวจท้องที่ และมาถึงด่านตรวจท่ามิหรำ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่จำนวนมาก จึงได้จอดรถลงไปสอบถามจากนายทหารยศ พ.ท. ซึ่งรู้จักกันจึงทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ยะหา จ.ยะลา ขับรถผ่านด่านตรวจเพื่อจะกลับไปยัง สภ.ยะหา และมีการตรวจค้นพบว่ามีการพกปืนสั้น และมีปืนเอ็ม 16 รุ่นเอ็ม 4 อยู่ในรถ จึงได้ทำการจับกุมตั้งข้อหา และต่อมาได้มีการให้ประกันตัวตามขั้นตอน ตนเพียงแต่ทราบเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นคนขอให้ฝ่ายปกครองปล่อยตัวแต่อย่างใด

สำหรับผู้ที่ถูกจับคือ ส.ต.ต.รณชาติ ยงกิตติเกษม อายุ 28 ปี ที่อยู่ 27/1 หมู่ 7 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งขับรถเก๋งวีออส ผ่านด่านตรวจท่ามิหรำ ซึ่งเป็นจุดตรวจของฝ่ายปกครอง และถูกเรียกให้หยุดตรวจ จากการตรวจค้นพบว่ามีปืนเอ็ม 16 รุ่นเอ็ม 4 เป็นของราชการ ทะเบียน เอ 0255218 กระสุดขนาด 5.56 จำนวน 26 นัด ซองกระสุน 1 ซอง ปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อค ทะเบียน 573016 ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 15 นัด จึงได้ทำการตรวจยึดพร้อมดำเนินคดีดังกล่าวข้างต้น

โดย ส.ต.ต.รณชาติ กล่าวว่า ตนเองออกเวรจาก สภ.ยะหา และเดินทางกลับบ้านที่ จ.ตรัง และได้พยายามที่จะอธิบายถึงความจำเป็น ในการมีอาวุธปืนราชการไว้เพื่อป้องกันตัว เพราะพื้นที่ตั้งแต่ อ.จะนะ จ.สงขลา จนถึง อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นพื้นที่อันตราย และมีการยิงเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธปืนประจำกายไว้ป้องกันตัวในการเดินทาง แต่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจไม่ฟัง จึงถูกตั้งข้อหา และดำเนินคดีในที่สุด

โดยผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวผู้จัดการได้รายงานด้วยว่า หลังการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการแชร์เรื่องที่เกิดขึ้น และเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุม ในฐานะที่เป็นตำรวจในพื้นที่อันตราย ที่จำเป็นต้องพกพาอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ได้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง จะได้รู้ว่ามีอันตรายแค่ไหน อย่างไร โดยในไลน์ต่างๆ กล่าวว่า เรื่องอย่างนี้พูดคุยกันก็น่าจะรู้เรื่อง ไม่น่าจะต้องจับกุมดำเนินคดี เพราะไม่ได้ไปก่อเหตุอะไร แต่เป็นการพกพาปืนเดินทางเพื่อป้องกันตัวเพียงเท่านั้น

ขอบคุณ/ที่มา ข่าวและภาพ : ผู้จัดการออนไลน์