อย่างที่ทราบกันว่าศาสนาอิสลามเข้าสู่จีนด้วย 2 เส้นทางคือ เส้นทางสายไหมที่เข้าสู่ทางทิศตะวันตกของจีน และเส้นทางสายไหมทางทะเล โดยผ่านทางฝั่งตะวันออกของจีน คือบริเวณเมืองฉวนโจว เมืองกวางเจาเป็นต้น โดยเฉพาะท่าเรือทางเมืองฉวนโจวของมณฑลฮกเกี้ยน ซึ่งมีความสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยราชวงค์ถัง สิ่งที่เป็นประจักษ์พยานที่หลงเหลือไว้ทุกวันนี้ คือกุโบร์ของซอฮาบะฮ์ ที่ยังคงอยู่ให้เห็นถึงทุกวันนี้
เมือง ฉวนโจวเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของจีน เพราะเป็นเมืองที่ติดกับทะเล จึงเป็นท่าเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งในจีน ในอดีตนั้นมีการค้าที่คับคั่ง เวลาเข้าสู่จีนพ่อค้าอาหรับนำสินค้าประเภทเครื่องเทศ พืชพันธุ์ต่างๆ ของตะวันออกกลางมาจำหน่ายที่จีน รวมทั้งมีการนำช่างฝีมือต่างๆ เข้าไปในผืนแผ่นดินจีนด้วย ส่วนขากลับประเทศอาหรับ พ่อค้าชาวอาหรับก็นำสินค้าประเภทชา ดินปืน กระดาษ เป็นต้นไปจำหน่ายยังประเทศอาหรับและเผยแพร่ไปยังกลุ่มประเทศตะวันตกต่างๆ
จัก เห็นได้ว่าในอดีตนั้นเมืองฉวนโจวเป็นเมืองที่มีความคับคั่งทางด้านการค้ากับ กลุ่มประเทศตะวันออกกลางมาก จำนวนชาวอาหรับที่เข้าสู่เมืองฉวนโจวก็มีจำนวนไม่น้อย สามารถเห็นได้จากการสร้างมัสยิดหลังใหญ่ขึ้นที่เมืองฉวนโจว เมืองกวางเจา และเมืองท่าที่อยู่ทางหางโจว มัสยิดที่ตั้งอยู่ทั้งสามเมืองนี้ จึงกลายเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน
จริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของประเทศจีนกับประเทศอาหรับนั้นมีมาช้านาน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 หลังจากการสถาปนาประเทศจีนเมื่อปีค.ศ. 1949 ประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาหรับก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในยุคใกล้นี้เฉพาะช่วงสงครามเย็นที่มีความคลางแคลงใจบ้าง หลังจากที่สงครามเย็นสิ้นสุดลง ตามการขยายอิทธิพลของจีนที่มีบทบาทในเวทีโลก ทำให้ความสัมพันธ์ของประเทศจีนและกลุ่มประเทศอาหรับมีความสำคัญยิ่งขึ้น
สามารถ กล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ของจีนกับประเทศอาหรับในช่วง ค.ศ. 1949-1979 นั้น เป็นช่วงแห่งการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย การประชุมที่ประเทศอินโดนีเซียตาม “เจตรารมณ์บันดุง” เมื่อปีค.ศ. 1944 โดยมีกลุ่มประเทศจากเอเชีย-แอฟริกาได้ร่วมกันต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิ อาณานิคม เพื่อพิทักษ์สันติภาพของโลกและส่งเสริมมิตรภาพของประชาชนทั่วโลก ในตอนนั้นแม้ว่าประเทศอิสราเอล จะเป็นประเทศแรกที่ชิงสถาปนาความสัมพันธ์กับประเทศตะวันออกกลาง แต่ความสัมพันธ์ของอิสราเอลกับจีนนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายก็เข้าใจ ในฐานะที่ประเทศอิสราเอล พึ่งจะสถาปนาประเทศยังสร้างพันธมิตรไม่มาก
การสร้างความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศจีนและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งแต่การสร้างความสัมพันธ์ทางการฑูตของประธานาธิบดีโจวเอินไหล ที่มีการพบปะผู้นำของประเทศอียิปต์ ประเทศซีเรีย ประเทศเยเมนและประเทศอาหรับเป็นต้น การพบกันของผู้นำระดับประเทศได้ ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น โดยรัฐบาลจีนได้นำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อให้จุดยืนของกลุ่มประเทศตะวันกลางเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
สาเหตุ ที่ทางรัฐบาลจีนได้สร้างเวทีที่เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์ของกลุ่มประเทศ อาหรับนั้น ตามการวิเคราะห์ของนักวิชาการจีน มีความคิดเห็นว่า หลังจากสิ้นสุดสงครามเกาหลี ถือว่าเป็นการสิ้นสุดความเผด็จการของประเทศสหรัฐอเมริกา การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในสายตาของทางรัฐบาลจีนในตอนนั้น คือการสร้างพันธ์มิตรกับกลุ่มประเทศอาหรับและกลุ่มประเทศเอเซียและอัฟริกา อนึ่งกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็ต้องการพันธมิตรในการต่อต้านการล่าอาณานิคม จึงเป็นความประจวบเหมาะในการสร้างความร่วมมือพื้นฐานของทั้งสองฝ่าย
การ สร้างความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายได้สะดุด เพราะเป็นช่วงที่มีความปั่นป่วนภายในของประเทศจีน เนื่องจากเหตุการณ์ “การปฎิวัติวัฒนธรรมจีน” กระนั้นก็ตามในระหว่างนั้นทางรัฐบาลจีนก็มิได้ละความพยายาม ในการรักษาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง หลังจากการปฎิรูปทางด้านเศรษฐกิจของจีน เป็นช่วงที่กลุ่มประเทศตะวันกลางก็ประสบปัญหาภายในของประเทศตัวเอง เช่นการปฎิวัติของประเทศอีหร่าน และประเทศซูดานเป็นต้น ทางรัฐบาลจีนก็ยังคงยืนหยัดในอำนาจอธิปไตยของกลุ่มประเทศอาหรับ
สามารถ กล่าวได้ว่าการไปมาหาสู่ของจีนและกลุ่มประเทศอาหรับจึงค่อนข้างเป็นไปอย่าง ราบรื่น และด้วยสัมพันธ์ภาพที่ดีข้างต้นทั้งสองฝ่ายจึงมีการสรรหาแนวทางในการร่วมกัน ตลอดเวลา ตั้งแต่ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ จักเห็นภาพความร่วมมือเหล่าจากกิจกรรมต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายจัดขึ้น
ล่าสุด มีการเปิดเผยว่ามีโครงการก่อสร้างหอแสดงวัฒนธรรมอิสลามที่เมืองฉวนโจว โครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างหอแสดงวัฒนธรรมอิสลามแห่งเดียวในประเทศจีน นอกจากมีการแสดงวัฒนธรรมอิสลามทั่วไปแล้ว ยังมีโครงการจัดห้องแสดงสิ่งของมีค่าที่ได้รับมอบจากกลุ่มประเทศอาหรับต่างๆ อีกด้วย
งบ ประมาณในการสร้างหอนิทรรศการดังกล่าว รัฐบาลจีนระดับมณฑลได้สนับสนุนงบประมาณ 4 ล้านหยวน ระดับเมืองได้จัดสรรให้ 8 ล้านหยวน นอกจากนั้นแล้วประเทศตะวันออกกลางสนับสนุนอีก 4 ล้านหยวน จำนวนงบประมาณที่มากมายเช่นนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งสองฝ่ายอย่าง ดี
การ สร้างความร่วมมือทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลกลุ่มประเทศอาหรับเป็นผลพลอยได้ให้ กับประชาชนทั้งสองประเทศ จักเห็นได้ว่าการศึกษาอิสลามในจีนนั้น มีช่องทางและตัวเลือกที่ไม่น้อยในการศึกษา กล่าวได้วาสามารถศึกษาข้อมูลของอิสลามในจีนได้ทั้งเหนือใต้ออกตกของจีนเลยที เดียวเชียว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
http://www.2muslim.com/forum.php?mod=viewthread&tid=529011
http://www.islambook.net/xueshu/list.asp?id=151
อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
nisareen@mfu.ac.th