เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งโจมตีโบสถ์คริสต์ในฟิลิปปินส์ ดับอย่างน้อย 19 บาดเจ็บเกือบ 50

ภาพจากทวิตเตอร์ (Photos: Amarkhan Jidara)

เอพี/เดอะสตาร์ – เกิดเหตุระเบิดสองครั้งนอกมหาวิหารคริสตจักรโรมันคาธอลิก บนเกาะโจโล ฟิลิปปินส์ตอนใต้ ที่ซึ่งมีการก่อการร้ายของชาวมุสลิม ได้สังหารไปประชาชนไปอย่างน้อย 19 คน และบาดเจ็บเกือบ 50 คน ในวันอาทิตย์นี้ (27 ม.ค.)

การระเบิดครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในหรือใกล้กับมหาวิหารโจโลในเมืองหลวงของจังหวัด ตามด้วยการระเบิดครั้งที่สองนอกพื้นที่ขณะที่กองกำลังของรัฐบาลกำลังตอบโต้การโจมตี

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนและบาดเจ็บ 48 คน รายงานของตำรวจและทหารกล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตนี้รวมทั้งทหารและพลเรือน

ภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเศษซากและศพนอนอยู่บนถนนที่พลุกพล่านนอกมหาวิหารพระแม่แห่งเมานต์คาร์เมลซึ่งถูกระเบิดจากเหตุโจมตีในอดีต

รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวว่า ได้สั่งให้กองทัพเพิ่มระดับการเตือนภัย รักษาความปลอดภัยศาสนสถานและสถานที่สาธารณะทั้งหมด และเริ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก เพื่อขัดขวางแผนการที่ไม่เป็นมิตร

เกาะโจโลได้รับความเดือดร้อนมานานจากการปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายอาบูซัยยาฟซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐอเมริกาและฟิลิปปินส์ในฐานะองค์กรก่อการร้าย เนื่องจากการลอบวางระเบิด การลักพาตัว และการตัดหัวมาเป็นเวลาหลายปี

ยังไม่มีใครอ้างสิทธิ์ในการโจมตีนี้

เกือบหนึ่งสัปดาห์หลังจากชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยในประเทศโรมันคาธอลิกได้รับรองพื้นที่ปกครองตนเองใหม่ในฟิลิปปินส์ตอนใต้ โดยหวังว่าจะยุติการกบฏแบ่งแยกดินแดนเป็นเวลาเกือบห้าสิบปีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 150,000 ราย แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของชาวมุสลิมจะรับรองข้อตกลงปกครองตนเอง แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดซูลูซึ่งเป็นที่ตั้งของโจโลปฏิเสธ จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของกลุ่มกบฏคู่แข่งที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงเช่นเดียวกันกับกลุ่มอาบูซัยยาฟซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพใดๆ