พอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์ของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า การเป็นมุสลิมช่วยให้เขาพบความสงบภายในและกลายเป็นบุคคลที่ดีขึ้น เดลีซาบาห์ สื่อตุรกีรายงาน
นักฟุตบอลสัญชาติฝรั่งเศสไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนามาแต่เดิม ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งกับเดอะไทมส์ สื่ออังกฤษรายวัน ป็อกบากล่าวว่า แม่ของเขานับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็ไม่ได้ฟูมฟักสั่งสอนบุตรชายทั้งสามของเธอให้เป็นมุสลิม
ป็อกบาเริ่มให้ความสนใจในศาสนาอิสลามเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วผ่านเพื่อนของเขา และหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เขาตัดสินใจที่จะผูกมัดตัวเองกับการปฏิบัติตามหลักการศาสนาอิสลาม เดือนที่แล้วมีภาพของเขาที่ได้ไปแสวงบุญปฏิบัติอุมเราะห์ที่นครเมกกะห์
“มันทำให้ผมเปลี่ยนไป ตระหนักถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิต ผมคิดว่าบางทีมันอาจทำให้ภายในผมสงบขึ้น” เขากล่าวในพอดคาสต์
เขาอธิบายว่า การพูดคุยกับเพื่อนมุสลิมทำให้เขาศึกษาอิสลามด้วยตัวเองได้อย่างไร
“ มันเกิดขึ้นเพราะผมมีเพื่อนมากมายที่เป็นมุสลิม เรามักจะพูดคุยกัน ผมตั้งคำถามต่อตัวเองในหลายๆ เรื่อง จากนั้นผมก็เริ่มค้นคว้าด้วยตัวเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งผมละหมาดร่วมกับเพื่อนๆ และผมรู้สึกถึงบางสิ่งที่แตกต่าง ผมรู้สึกดีจริงๆ ” เขากล่าวเพิ่มเพิมและว่า ”ตั้งแต่วันนั้น ผมก็สานต่อ”
ศาสนาอิสลามถูกเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางจากสาธารณชน และถูกนำเสนอแบบบิดเบือนโดยสื่อต่างๆ ป็อกบากล่าวเสริมว่าศาสนาอิสลามเป็น “สิ่งที่สวยงาม”
ป็อกบาอธิบายว่า การละหมาดห้าครั้งต่อวันซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของศาสนาอิสลาม เป็นสิ่งที่มีความหมายต่อเขา ในฐานะที่เป็นการบำเพ็ญปฏิบัติเพื่อขอการอภัยบาปและการขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้
“มันเป็นศาสนาที่เปิดใจของผม และทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น คุณอาจคิดถึงชีวิตหลังความตายได้มากขึ้น ชีวิตนี้คือการทดสอบ” เขากล่าว
เขาอธิบายว่า ศาสนาอิสลามสอนให้มีการเคารพอย่างลึกซึ้งต่อมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตาม เขากล่าวว่า ในความสัมพันธ์กับมนุษย์ทุกคนชาวมุสลิมควรเคารพผู้อื่น “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร นับถือศาสนาอะไร สีผิวอะไร และในทุกๆ เรื่อง”
“ นี่คืออิสลาม – ให้ความเคารพต่อมนุษยชาติและทุกสิ่งอย่าง” เขากล่าว