สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มเครือข่ายการเข้าถึงสหรัฐฯเป็น เท่าตัวใน 12 เดือนที่ผ่านมาด้วยเส้นทางล่าสุดสู่ สู่ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ 6 ในสหรัฐฯ สายการบินเอทิฮัด ได้แนะนำ 3 เที่ยวบินตรงต่อสัปดาห์ระหว่าง ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธและอาบูดาบี โดยมีแผนการจะพัฒนาเป็นเที่ยวบินรายวันต่อไปในอนาคต
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวที่ สภาธุรกิจสหรัฐฯยูเออี ช่วงงานเลี้ยงอาหารกลางวันว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดที่สำคัญของสายการบินฯเนื่องด้วยเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดของโลก และยูเออียังเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯในภูมิภาคตะวันออกกลาง
มร. เจมส์ โฮแกน กล่าว ”การ เชื่อมต่อดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ มีความสำคัญทางกลยุทธ์เป็นอย่างยิ่ง และการเชื่อมต่อดังกล่าวกับตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตะวันออกกลาง และอนุทวีปอินเดียจะช่วยส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งด้านการ พาณิชย์ การค้า และวัฒนธรรมระหว่างสหรัฐฯและยูเออี
“การ เชื่อมต่อทั้ง 2 จุดหมายปลายทางดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และเทคโนโลยี และต่อบริษัท ทั้ง 20 แห่งที่ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธและอีก 52 บริษัทในเท็กซัสที่ติดอันดับใน ฟอร์จูน500”
จุดหมายปลายทางอื่นๆในรัฐภูมิภาคปากอ่าวที่มีการเชื่อมต่อทั้ง 2 ทางได้แก่ บาห์เรน โดฮา คูเวต มัสกัตและซาอุดีอาระเบีย
การเชื่อมต่อสำคัญอื่นๆ ในตลาดอนุทวีปอินเดียได้แก่ ปากีสถาน ศรีลังกา และเนปาล ผ่านความร่วมมือกับสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ ทำให้สายการบินเอทิฮัดสามารถเข้าถึงตลาดอินเดียได้อย่างกว้างขว้างด้วยกว่า 200 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่ 14 จุดหมายปลายทางในอินเดีย
ดัล ลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ นับเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 17 เพื่อการค้ากับยูเออีของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าการค้าที่เพิ่มจาก 68 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2542 เป็น 363 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2555 ทั้งนี้ ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ ยังเป็นศูนย์กลางทางการบินที่สำคัญที่สุดของ สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นพันธมิตรเที่ยวบินร่วมสำคัญของสายการบินเอทิฮัดในสหรัฐฯ
มร. เจมส์ โฮแกน กล่าว “ใน ขณะที่สายการบินเอทิฮัดลงทุนขยายเครือข่ายในสหรัฐฯ สายการบินยังได้เดินหน้าลงทุนในบริษัทต่างๆในสหรัฐฯพร้อมเรียนรู้วิธีในการ ดำเนินการต่างๆ”
“ใน ใบแสดงราคาของปี 2557 แสดงมูลค่าโดยรวมของเครื่องบินไอพ่นโบอิ้งที่เราได้รับหรือได้สั่งซื้อรวม มูลค่า 36.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯได้คำนวนนับเป็นจำนวนตำแหน่งงาน 210,000 ตำแหน่งในอุตสาหกรรมการยานอวกาศ”
“เรายังได้สิทธิในการเลือกซื้อเครื่องบินอีก 30 ลำ ซึ่งถ้ามีการใช้สิทธิดังกล่าวจะยิ่งช่วยส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ”
“สายการบินเอทิฮัดเลือก เครื่องยนต์ GE (GE Engine) สำหรับเครื่องบินโบอิ้งทั้งหมดขณะที่ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอื่นๆผลิต ที่นั่งในชั้นโดยสาร อุปกรณ์ต่างๆ และระบบความบันเทิงบนเที่ยวบิน”
เมื่อปีที่ผ่านมาสายการบินเอทิฮัดได้ลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในการเป็นพันธมิตรกับ Sabre Travel Technologies เพื่อจัดหาแพลตฟอร์มไอทีใหม่ ในการรองรับระบบการบริการผู้โดยสารระดับโลก ทั้งนี้สายการบินยังได้มีการลงนามครั้งสำคัญกับ SAP บริษัทด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของสหรัฐฯอีกด้วย
ด้วยการเปิดบริการสู่ ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ ทำให้สายการบินเอทิฮัดมีเที่ยวบินบริการระหว่างสหรัฐฯและอาบูดาบี จำนวน 45เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องมาจากการเปิดเที่ยวบินรายวันเที่ยวที่สองสู่นิวยอร์กเมื่อเดือน มีนาคมที่แล้ว และการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่าง อาบูดาบีและ ลอสแองเจลิสในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเที่ยวบินสู่ซานฟรานซิสเมื่อเดือนพฤศจิกายน
นอกจาก การบริการผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางต่างๆในสหรัฐของสายการบินเอทิฮัด เอทิฮัด คาร์โก้ ยังให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้ารายสัปดาห์สู่ไมอามี่และชิคาโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการขนส่งสินค้าทั่วโลกของสายการบินฯ ซึ่งเที่ยวบินดังกล่าวดำเนินการโดยสายการบิน แอตลาส แอร์ (Atlas Air) พันธมิตรสำคัญของสายการบินฯในสหรัฐฯ โดยเครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 747-8 ที่มีลวดลายภายนอกของสายการบินเอทิฮัด
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัดกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้า ร่วมงาน ณ สภาธุรกิจสหรัฐฯยูเออี ช่วงงานเลี้ยงอาหารกลางวันในเออร์วิง เท็กซัส เมื่อเร็วๆนี้
(จากซ้ายไปขวา) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารท่าอากาศยายนานาชาติดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ (DFW) มร. ฌอน โดนอฮิว ,กงสุลใหญ่ยูเออีประจำลอสแองเจลิส ฯพณฯ ท่าน อับดุลลา อับซาบูซี่ , และ มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด ณ สภาธุรกิจสหรัฐฯยูเออี ช่วงงานเลี้ยงอาหารกลางวันในเออร์วิง เท็กซัส เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อฉลองเที่ยวบินตรงระหว่าง ดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ และ อาบูดาบี