หยิบกระเป๋า แล้วออกเดินทาง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต

เข้าสู่กลางปี2558 แล้ว   ปีทีแล้ว หลายๆคนทำงานหนักมาตั้งแต่ต้นปี อาจจะรู้สึกเหนื่อยกับชีวิต ที่เหมือนหนูถีบจักร ต้องทำสิ่งซ้ำๆ เดิมๆ อยู่ทุกวัน และหลายคนคงอยากออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร  อย่าอยู่เฉยค่ะ ชีวิตเราไม่ได้มีแค่ด้านเดียว แต่ละปีทีผ่านไป มีอะไรใหม่ๆ เข้ามาหาเรามากมาย  แม้แต่ปี 2558 นี้ ก็เป็นปีที่เข้าสู่อาเซียน ซึ่งคงจะมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้อีกเช่นกัน  ฉะนั้น อย่ารอช้า มาหาอะไรใหม่ๆหรือหาสิ่งที่ทำแล้วได้ชาร์ตแบตเตอรี่ให้ตัวเราเองกันดีกว่า

•    ถอดปลั๊ก

ปลดตัวเองจากโลกโซเชียลซะบ้าง วางสมาร์ทโฟนให้ห่างกาย หยิบหนังสือพ๊อคเก็ตบุ๊คและแผนที่ท่องเที่ยว ปากกาและไดอารี่1เล่ม แล้วเริ่มต้นใช้ชีวิตไปกับวันที่ไร้ซึ่งเทคโนโลยีสักพัก วางแผนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความประทับใจให้เต็มที่

•    แสวงหาสถานที่ใหม่ๆ

แสวงหาสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมใหม่ๆ เปิดโลกกว้างกับสถานที่ที่เรายังไม่เคยไป เพราะอาจจะทำให้เราได้ค้นพบเรื่องราวใหม่ๆ หรือเรื่องราวที่เราอาจจะคาดไม่ถึง บางทีอาจทำให้เราได้รู้จักตัวเองในด้านที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็เป็นได้

•    เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ

การได้ลองเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นล่องแก่ง พายเรือคายัค    โดดหอ ปีนหน้าผาจำลอง ดำน้ำลึก ประสบการณ์ตื่นเต้นเหล่านี้ จะทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น และหากเราจะเริ่มทำอีก เพราะรู้สึกสนุกกับกิจกรรมเหล่านั้น ทริปต่อๆไป อาจจะทำให้เรายิ่งสนุกมากขึ้นก็ได้

•    เที่ยวคนเดียว

ไปเที่ยวคนเดียว! ฟังดูน่ากลัวนะ แต่มันจะเป็นประสบการณ์ที่วิเศษสุดๆ เพราะจะสอนให้เราได้ได้พึ่งตนเอง ได้ไปพบกับผู้คนใหม่ๆ ได้ลองสิ่งใหม่ๆ  แต่ถ้าเรายังไม่พร้อม อาจลองใช้บริการของบริษัททัวร์ไปก่อนก็ได้  แม้จะมีไกด์และเพื่อนร่วมทริป แต่ก็จะมี บางช่วงเวลาที่เราสามารถผจญภัยด้วยตัวคนเดียวได้

•    คุ้นเคยกับกล้อง

“ความทรงจำ”กับประสบการณ์และกิจกรรมที่เราเลือกทำ และความทรงจำจากภาพถ่าย   ก็เป็นอีกสิ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน  ไม่ว่าเราจะถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลหรือกล้องมือถือ เราควรเลือกกล้องที่เราคุ้นเคยดี เพราะภาพแห่งความทรงจำของเรา อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนก็ได้

•    เก็บทุกช่วงเวลา

บอกตัวเองเสมอ เรามาพักผ่อน  ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเร่งรีบ มัวแต่ถ่ายรูปอย่างเดียวจนลืมสูดอากาศดีๆ อดสัมผัสกับบรรยากาศสวยงาม ลองหยุดนิ่งๆ เพื่อชื่นชมกับบรรยากาศรอบตัว ดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตผู้คน ลิ้มรสอาหารประจำชาติ จงใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า เก็บรายละเอียดทุกช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามา

•    สนทนากับคนท้องถิ่น

เราไม่สามารถเรียนรู้ได้ทุกภาษา แต่การได้ฝึกพูดคำศัพท์พื้นฐานของภาษาใหม่ในประเทศที่เราจะเดินทางไป ก็จะช่วยให้เราสามารถสนทนากับคนท้องถิ่นได้  แต่บางครั้งภาษาก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการได้พบมิตรภาพ เพราะภาษากายและรอยยิ้ม ก็ทำให้เราได้เพื่อนเสมอ

•    ใช้อาหารนำทาง

เราสามารถใช้“อาหารท้องถิ่น”เป็นผู้นำทางได้  เพราะ บางครั้ง เมื่อเราได้มีโอกาสทานอาหารประจำชาติของประเทศนั้นในประเทศของเราเอง มาคราวนี้ คุณอาจวางแผนไปเที่ยวที่ประเทศนั้น  แล้วลองไปชิมอาหารรสชาติดั้งเดิม หรือจะชิมอาหารพื้นบ้าน ที่ปรุงโดยเชฟเจ้าของสูตรอาหารตัวจริง เมื่อนั้น เราก็จะได้พบความรื่นรมย์กับรสชาติอาหารแท้ๆ

•    เขียนบันทึกการเดินทาง

ทุกวันนี้ รอบตัวเราเต็มไปด้วยสมาร์ทโฟนและโซเชียล จนทำให้เราเผลอลืมการเขียนบันทึกบนไดอารี่ไป กับการเดินทางครั้งใหม่นี้ ลองพกสมุดไดอารี่เล่มเล็กๆ เริ่มจดบันทึกความรู้สึกและสิ่งที่เราพบเจอ เขียนสั้นๆ เป็นข้อๆ  ในไดอารี  เพื่อจดความประทับใจดีๆ แล้วยังทำให้การเดินทางของเราเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และยังสามารถนำบันทึกนี้ ไปช่วยวางแผนการเดินทางในครั้งต่อๆ ไปได้ด้วย

•    ออกเดินทางได้แล้ว

“สองสิ่ง” ที่ยังคงเป็นอุปสรรคขัดขวางเราจากการเดินทาง คือ ”เงินและเวลา” ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดใช้เหตุผลนี้  เลิกพูดว่า “ชั้นจะท่องเที่ยว ชั้นจองตั๋วแล้ว แต่ชั้นไม่มีเวลา” อย่าลืมว่า เวลาไม่เคยคอยใคร อย่ารอจนวันที่มีเงินแต่ไม่มีแรง เพราะ“ประสบการณ์ของแต่ละคน ทำแทนกันไม่ได้ เราต้องไปเจอประสบการณ์เอง”

มีเป้าหมาย มีเวลา มีแรง มีเงิน และไม่มีข้ออ้างใดๆ  แปลว่าเราพร้อมออกเดินทางแล้ว ฉะนั้น “จงออกเดินทาง  อย่ารอว่าเมื่อไหร่จะพร้อม เพราะจริงๆ แล้ว เราพร้อมเสมอ ถ้าเราไม่มีข้ออ้าง เพราะ “ประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต ของใครก็ของคนนั้น”
 

เรื่องโดย…  ทะเลสีเขียว ภูเขาสีฟ้า
เรียบเรียงจาก…travel.mthai.com                                                  ขอบคุณภาพจาก…internet