“We Are Not Numbers” โครงการใหม่ที่เชื่อมโยงนักเขียนรุ่นเยาว์ในกาซ่ากับโลกกว้าง

“ฉันอยากจะบอกให้โลกรู้จริงๆ เกี่ยวกับอีกด้านหนึ่งของกาซ่าที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน” ผู้เข้าร่วมโครงการใหม่คนหนึ่งที่จัดขึ้นโดยนักเขียนรุ่นเยาว์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าบอกกับ MintPress

(ภาพ) สองพี่น้องกาดา และมุฮัมเมด ชูมัน ผู้เข้าร่วมในโครงการ We Are Not Numbers ร้องเพลงเกี่ยวกับชีวิตในกาซ่า

กาซ่า – ขณะที่การประท้วงและการรวมตัวกันทั่วโลกเพื่อรำลึกถึงปฏิบัติการทางทหารครั้งล่าสุดของอิสราเอลที่กระทำต่อฉนวนกาซ่า ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไป 2,251 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 551 เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว โครงการใหม่ที่จัดขึ้นโดยนักเขียนเยาวชนในดินแดนที่ถูกปิดล้อมไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสียหายด้านมนุษยธรรมจากการล่วงละเมิดครั้งแล้วครั้งเล่าของอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของชีวิตแต่ละวันในฉนวนกาซ่าด้วย

กาซ่า “เป็นสถานที่ที่อัจฉริยะเติบโต เป็นที่ที่ความคิดสร้างสรรค์ถูกรวบรวมไว้” อาห์เมด เอลกอตตาวี นักศึกษาวรรณคดีอังกฤษวัย 20 ปี และผู้เข้าร่วมโครงการ “ We Are Not Numbers” บอกกับสำนักข่าว MintPress
เขาบอกว่า โครงการนี้ “ทำให้รู้ว่าพวกเราแต่ละคนมีเรื่องหนึ่งที่จะบอกเล่า”

“การ ‘จับคู่’ ที่ถูกต้อง”

โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยเครือข่ายตรวจสอบสิทธิมนุษยชนในแถบยุโรป-เมดิเตอร์เรเนียน หรือ Euro-Mediteranean Human Rights Monitor ที่มีฐานอยู่ในกรุงเจนีวา และมีสำนักงานอยู่ในกาซ่าซิตี้ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเขียนในท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่จะมีอายุระหว่าง 17-29 ปี ได้ติดต่อสัมพันธ์กับผู้ให้คำปรึกษาที่มากประสบการณ์ด้านการเขียน

“ส่วนที่ดีที่สุดก็คือโอกาสที่จะได้มีผู้ให้คำปรึกษาระดับนานาชาติ” ดุอาอฺ มุฮัยเซน นักศึกษาวรรณคดีอังกฤษวัย 19 ปีที่เรียกตัวเองว่า “เด็กเหลือขอจอมยุ่งที่ใจร้อน” บอกกับ MintPress “ที่ปรึกษาของฉันคือซูซาน อับดุลฮาวา ผู้ที่เป็นหนึ่งในนักเขียนคนโปรดของฉัน”

อับดุลฮาวา นักเขียนนวนิยายชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ และนักเขียนเรื่อง “Mornings in Jenin” และ “ The Blue Between Sky and Water” ร่วมกับนักเขียนวรรณกรรมคนอื่นๆ อย่างเช่น แนนซี่ คริโคเรียน รวมทั้งนักหนังสือพิมพ์อย่าง แรมซี บารูด และนักเคลื่อนไหวอย่าง แออน์ ไรท์ เป็นผู้ให้คำปรึกษา

เกือบทุกคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ แม้ว่าจะมีคนหนึ่งอยู่ในเวสต์แบงค์ คือมาซิน กุมซีเยห์ ผู้ร่วมก่อตั้งแนวร่วมสิทธิในการกลับสู่ปาเลสไตน์ (Palestine Right to Return Coalition), สมาคมพันธุศาสตร์ตะวันออกกลาง (Middle East Genetics Association), มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ (Holy Land Conservation Foundation) และสถาบันการศึกษาเพื่อความยุติธรรม (Academics for Justice) เขาสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเบธเลเฮม และมหาวิทยาลัยเบอร์ซีท

“การ ‘จับคู่’ ที่ถูกต้องเป็นเรื่องยาก” แพม ไบเลย์ นักหนังสือพิมพ์อิสระชาวอเมริกัน และผู้อำนวยการระหว่างประเทศโครงการ “We Are Not Numbers” บอกกับ MintPress “ฉันพยายามทำการจับคู่ตามบุคลิกภาพและแนวการเขียน”

ประสบการณ์ที่หลากหลาย

การเชื่อมโยงเหล่านี้ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง แพม ไบเลย์กล่าวว่า “เยาวชนส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกของโครงการ Not Numbers ไม่ได้มีการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และไม่ใช่กับนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงหรือมากประสบการณ์จริงๆ”

“เราช่วยให้เรื่องราวของพวกเขาเป็นสิ่งที่มองเห็นชัดเจน และนำมาตีพิมพ์เผยแพร่ด้วย” เธอกล่าวเสริม “โดยตัวของพวกเขาเองแล้ว นักเขียนที่กำลังพัฒนาเหล่านี้อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่จะทำแบบนั้นได้”

เมื่อปรับปรุงแก้ไขแล้ว เรื่องที่เสร็จเรียบร้อยจะได้อยู่ในรายการที่กำลังเพิ่มขึ้นบนเว็บไซต์ของโครงการ มันประกอบไปด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องของความเสียหายและการสูญเสียจากสงครามไปจนถึงเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน

“ฉันเขียนมาได้สามเรื่องแล้ว” ดุอาอฺ มุฮัยเซน กล่าว “เรื่องแรกเป็นเรื่องของตัวฉันเอง ชื่อเรื่อง ‘Contracts with God’ กล่าวถึงการสูญเสียความไร้เดียงสาของเด็กคนหนึ่งที่เคยทำการต่อรองกับพระเจ้า เคยเผชิญกับสงครามครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกาซ่า แล้วเธอก็ได้พบว่าการขอพรของเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงอันโหดร้ายในชีวิตได้ เรื่องที่สองเป็นเรื่องที่ฉันได้สัมภาษณ์มุฮัมเมด กริกี ศิลปินวัย 13 ปีที่ความสามารถพิเศษของเขาทำให้ศิลปินใหญ่ต้องยอมรับเขา เรื่องที่สามเป็นเรื่องเกี่ยวอาหารจานโปรดของฉัน มะกะโรนีราดซอสเบชาเมล”

‘วัตถุประสงค์คือการเปลี่ยนทัศนคติแบบเหมารวม’

นักเขียนจำนวนหนึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายมุมมองของชาวต่างชาติเกี่ยวกับฉนวนกาซ่าให้กว้างขึ้น จากสถานที่แห่งความขัดแย้งอย่างไม่สิ้นสุดไปเป็นสถานที่ที่มีชีวิต ความหวัง และความทะเยอทะยาน

“วัตถุประสงค์คือการเปลี่ยนทัศนคติแบบเหมารวมของคนที่เชื่อว่ากาซ่าคือสถานที่แห่งความตายและสงคราม” อาห์เมด เอลกอตตาวีกล่าว “แต่ทว่ามันเป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากสิ่งนั้น”

เรื่องที่เขาเขียนให้โครงการเป็นเรื่องที่กล่าวถึงทั้งการเมืองภายในของปาเลสไตน์และผู้มีความสามารถพิเศษที่พบในฉนวนกาซ่า เขากล่าวว่า

“หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องขบขันธรรมดาๆ ที่สามารถสร้างความหวังในอนาคตได้ มันถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดของการแบ่งแยกทางการเมืองในสังคมปาเลสไตน์ มันสื่อถึงข้อความหนึ่งว่าเราทั้งหมดต้องสามัคคีกัน เพราะถ้าแตกแยกเราก็จะพบกับความหายนะ ตอนนี้ผมกำลังเขียนอีกเรื่องหนึ่งอยู่ เนื้อเรื่องของมันเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของหนุ่มกาซ่าคนหนึ่งที่ถึงแม้จะไม่สามารถเดินทางไปแสดงความสามารถพิเศษของเขาได้ แต่ก็ยังคงเป็นนักดนตรีที่ดีที่สุดที่เขาสามารถเป็นได้ภายในดินแดนแห่งนี้”

เรื่องที่สามเป็นเรื่องเล่าถึงความตายของลูกพี่ลูกน้องสองคนของเขาจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว

‘กาซ่าไม่ได้มีแต่เรื่องของสงคราม, ความรุนแรง, ความทุกข์ยาก และการเมืองที่ผิดพลาด’

นักเขียนคนอื่นๆ มาถึงแนวที่เป็นการผสมผสานของเรื่องเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ฉันเลือกทั้งสองแนว ทั้งการโจมตีของอิสราเอลและชีวิตประจำวัน” ชรูก เอล-อัยลา นักศึกษาภาษาอังกฤษวัย 20 ปี และนักแปลอิสระ บอกกับ MintPress

“ในเรื่องของฉัน ฉันพยายามอธิบายให้คนอื่นๆ โดยเฉพาะชาวตะวันตก ได้เข้าใจว่ากาซ่าไม่ได้มีแต่เรื่องของสงคราม, ความรุนแรง, ความทุกข์ยาก และการเมืองที่ผิดพลาด” เธอกล่าว

กาดา ชูมัน วัย 20 ปี และมุฮัมเมด น้องชายของเธอวัย 16 ปี นักดนตรีคู่ที่แสดงดนตรีปลุกใจรักชาติของปาเลสไตน์ด้วยกัน

“ตอนนี้เสียงของฉันและกีต้าร์ของน้องชายฉันเป็น ‘อาวุธ’ ของเรา” กาดากล่าวไว้ในเรื่องบันทึกของเธอ “ระหว่างการรุกรานกาซ่าครั้งที่แล้ว (ในฤดูร้อนปี 2014) กลุ่มต้านทานได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงประจำชาติเกี่ยวกับความกล้าหาญ และภาพของเสรีภาพในอนาคต และตอนนี้ เราก็เช่นกัน”

ขณะเดียวกัน มุฮัมเมด “ยืนยันว่านิ้วของเขาจะไม่เล่นเพลงอื่นใดนอกจากเพลงประจำชาติของปาเลสไตน์ เพราะกลุ่มต่อต้านเป็นแรงบันดาลใจให้เขาและพี่สาวของเขาร้องเพลงเพื่อมาตุภูมิของพวกเขาเท่านั้น”

‘ชาวกาซ่าก็เหมือนกับคนอื่นๆ’

“ฉันมีเป้าหมายที่จะส่องแสงไปยังอัจฉริยะที่กำลังลอยไปในสายลมและถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง” ชรูก เอล-อัยลา กล่าว “โดยส่วนตัว ฉันอยากจะบอกให้โลกรู้จริงๆ ถึงอีกด้านหนึ่งของกาซ่าที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน”

ดุอาอฺ มุฮัยเซน หวังด้วยว่าจะเน้นให้เห็นถึงความเป็นปกติธรรมดาของชีวิตในกาซ่าที่เหมือนกับส่วนอื่นๆ ของโลก
“ฉันอยากจะเขียนเกี่ยวกับด้านที่มีความสุขของกาซ่าให้มากยิ่งขึ้น” มุฮัยเซนกล่าว “ชาวกาซ่าก็เหมือนกับคนอื่นๆ พวกเขาหัวเราะจนน้ำตาเล็ดโดยไม่มีเหตุผล, ทำอาหารเมนูไก่อร่อยๆ, ทำเรื่องตลกขบขันโง่ๆ, ไม่เคยเหนื่อยกับการกินฟาลาเฟล, ชอบซุบซิบเรื่องใหม่ๆ ทุกอย่าง, เสียใจเมื่อสอบตก, และโวยวายตลอดเวลากับอากาศร้อน แต่พวกเขาเต็มใจที่จะเล่าเรื่องดีๆ ให้คุณฟังเมื่อใดก็ตามที่คุณสนใจจะฟัง”

ความเป็นจริงเหล่านี้ไม่ควรจะบดบังความท้าทายที่กำลังเผชิญฉนวนกาซ่าอยู่ อะห์เมด เอลกอตตาวีกล่าว
“ผมคิดว่าการใช้ชีวิตอยู่ในกาซ่าเป็นสิ่งที่ทนไม่ไหวเนื่องจากการปิดล้อมที่อิสราเอลทำกับกาซ่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็คุ้มค่าที่จะเปิดเผยให้เห็นว่าคนประเภทไหนที่อาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขาประดิษฐ์, สอน, เต้น, ร้องเพลง, เขียนหนังสือ, ศึกษา และรัก”

“ฉันไม่ใช่ตัวเลข”

ดุอาอฺ มุฮัยเซนบอกว่า โครงการนี้เป็นประสบการณ์ที่เป็นบวกอย่างยิ่ง

“ฉันได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เราได้รับทักษะพิเศษเกี่ยวกับการเขียนในเชิงให้ความรู้และเชิงสร้างสรรค์ เรามีโอกาสได้พบและพูดคุยกับนักเขียนที่มีชื่อเสียงและฉลาดด้วย”

ชรูก เอล-อัยลา กล่าวต่อไปโดยเรียกมันว่า “ประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ฉันได้รับในชีวิต”

“ฉันไม่อยากให้โครงการนี้สิ้นสุดลงเลย” เธอกล่าว “คุณคาดไม่ถึงหรอกว่าเราได้รับประโยชน์และข้อมูลอะไรบ้างในทุกการประชุม ฉันได้เห็นว่าทักษะการเขียนของฉันพัฒนาขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ”

เรื่องราวที่ท่วมท้นจากโครงการนี้ “บ่งบอกถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเราแต่ละคนมีเรื่องหนึ่งที่จะบอกเล่า” อะห์เมด เอลกอตตาวีกล่าว “เหยื่อชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกาซ่า ถูกนำมาแสดงในข่าวเป็นตัวเลข ไม่ใช่มนุษย์”

“ผมทนุถนอมชีวิตของผมมากเหมือนกับที่คนในประเทศอื่นๆ ทำ” เขากล่าวเสริม “ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่งจากกาซ่า และผมไม่ใช่ตัวเลข”

We Are Not Numbers Project – Palestine Will Be Free/ By Shoman Siblings

 

แปลจาก http://www.mintpressnews.com/we-are-not-numbers-new-project-connects-young-writers-in-gaza-to-the-world/207717/