10 อุบัติเหตุภายในบ้านที่พบบ่อย และวิธีป้องกันให้ทุกคนในบ้านปลอดภัยขึ้น

ลื่นล้ม สามาถใช้ประกันชีวิตอุบัติเหตุในการเข้ารับการรักษาได้

ในชีวิตประจำวัน หลายคนไม่ทันคิดว่าบ้านที่เราคุ้นเคยที่สุดนี่แหละ อาจเป็นจุดเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ทั้งจากความรีบ ความเผลอ หรือการจัดวางบ้านที่ไม่เหมาะสม บทความนี้รวบรวมอุบัติเหตุภายในบ้านที่เกิดขึ้นบ่อย พร้อมวิธีป้องกันแบบใช้งานได้จริง เพื่อช่วยให้คุณและครอบครัวใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยขึ้นทุกวัน

1. การลื่นล้ม

การหกล้มเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นง่ายมาก โดยเฉพาะกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ตัวการหลักมักเป็นพื้นลื่น ของเกะกะบนพื้น หรือแสงสว่างไม่พอ อาการบาดเจ็บก็มีตั้งแต่ฟกช้ำเล็กน้อยไปจนถึงกระดูกหักและบาดเจ็บที่ศีรษะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาการทรงตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

วิธีป้องกัน:

  • ติดแผ่นกันลื่นในห้องน้ำหรือบริเวณพื้นเปียก
  • เก็บของให้เป็นระเบียบ ไม่ปล่อยสายไฟหรือตะกร้าของตกอยู่บนพื้น
  • เพิ่มไฟในมุมมืด โดยเฉพาะบริเวณบันได
  • ติดราวจับในห้องน้ำและบันได
  • ใช้ปุ่มฉุกเฉินในจุดเสี่ยงสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ

2. อุบัติเหตุจากของมีคม

ของมีคมในครัวและส่วนอื่นของบ้าน เช่น มีด กรรไกร ที่ปอกผลไม้ หรือขอบเฟอร์นิเจอร์ สามารถทำให้บาดเจ็บได้ง่ายมาก โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็ก อาการบาดเจ็บรุนแรงอาจถึงขั้นต้องเย็บหรือผ่าตัด

วิธีป้องกัน:

  • เก็บมีดและอุปกรณ์คมในลิ้นชักที่มีตัวล็อก
  • ใช้งานด้วยความตั้งใจ ไม่ทำหลายอย่างพร้อมกัน
  • สวมถุงมือเมื่อทำความสะอาดอุปกรณ์มีคม
  • สอนเด็กเรื่องอันตรายของของมีคม
  • ซ่อมแซมหรือหุ้มมุมเฟอร์นิเจอร์ที่แหลมคม

3. อันตรายจากน้ำร้อนลวก

น้ำร้อนและอาหารร้อนเป็นของอันตรายโดยเฉพาะกับเด็กและผู้สูงอายุ แผลไหม้รุนแรงอาจต้องรักษาในโรงพยาบาล สาเหตุมักเกิดจากภาชนะล้ม น้ำเดือดสาด หรือเครื่องทำน้ำอุ่นที่ตั้งอุณหภูมิสูงเกินไป

วิธีป้องกัน:

  • ตั้งอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้ไม่ร้อนเกิน
  • ใช้ถุงมือกันร้อนเมื่อถือภาชนะร้อน
  • ไม่ให้เด็กอยู่ในครัวลำพัง
  • หันด้ามกระทะเข้าด้านในเตา
  • ทดสอบอุณหภูมิน้ำก่อนอาบให้เด็กหรือผู้สูงอายุ

4. ไฟฟ้าช็อต

ไฟฟ้าช็อตเป็นอันตรายรุนแรงและเกิดได้ง่ายมาก ทั้งจากสายไฟเสีย อุปกรณ์พัง หรือการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่เปียก เด็กเล็กก็มีโอกาสเอาของแหย่ปลั๊กโดยไม่รู้ตัว

วิธีป้องกัน:

  • ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กเป็นประจำ
  • ติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ (RCD)
  • ใช้ฝาครอบปลั๊กสำหรับบ้านที่มีเด็ก
  • ไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้น้ำ
  • ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน

5. การสำลักอาหารหรือวัตถุแปลกปลอม

การสำลักเป็นเหตุฉุกเฉินที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบหยิบทุกอย่างเข้าปาก หรือในผู้สูงอายุที่เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อันตรายถึงขั้นหายใจไม่ออกได้

วิธีป้องกัน:

  • หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
  • เก็บของชิ้นเล็ก เช่น เหรียญ ปุ่ม ให้พ้นมือเด็ก
  • ไม่ให้เด็กวิ่งเล่นเวลาทาน
  • ระวังอาหารเสี่ยง เช่น ถั่ว องุ่น
  • ฝึกเคี้ยวให้ละเอียดและกินอย่างไม่รีบ

6. อุบัติเหตุจากเพลิงไหม้

ไฟไหม้ภายในบ้านเป็นอุบัติเหตุที่อันตรายและก่อความเสียหายอย่างมาก มักเกิดจากความประมาทระหว่างการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ที่ให้ความร้อน เช่น การลืมปิดเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า รวมถึงพฤติกรรมสูบบุหรี่ภายในบ้าน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดเพลิงไหม้โดยไม่ตั้งใจ

วิธีป้องกัน:

  • ติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน
  • ตรวจระบบไฟฟ้าเป็นประจำ
  • ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน
  • มีถังดับเพลิงพร้อมใช้งาน
  • วางแผนเส้นทางหนีไฟและฝึกซ้อม

7. อุบัติเหตุจากการจมน้ำ

อุบัติเหตุจมน้ำอาจดูเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ในบ้านที่มีสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ความเสี่ยงยังคงมีอยู่เสมอ โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กที่สามารถจมน้ำได้แม้ระดับน้ำจะตื้นเพียงไม่กี่เซนติเมตร สาเหตุสำคัญมักมาจากการที่เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล หรือสระว่ายน้ำที่ไม่ได้ติดตั้งรั้วป้องกันอย่างเหมาะสม

วิธีป้องกัน:

  • ไม่ปล่อยเด็กอยู่ใกล้น้ำลำพัง
  • ติดรั้วรอบสระว่ายน้ำ
  • ฝึกว่ายน้ำให้เด็กแต่เนิ่นๆ
  • เรียนรู้ CPR
  • เทน้ำออกจากภาชนะหลังใช้งานทันที

8. อันตรายจากวัตถุหล่นทับ

เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิด โดยเฉพาะตู้และชั้นวางของแบบสูง หากจัดวางสิ่งของไม่เหมาะสม แล้วหกล้มลงอาจทำให้บาดเจ็บได้รุนแรงได้โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มักมักปีนเฟอร์นิเจอร์เล่น

วิธีป้องกัน:

  • ยึดตู้ ชั้นวางของเข้ากับผนัง
  • ไม่วางของหนักบนที่สูง
  • ไม่ซ้อนของจนล้มง่าย
  • ใช้ตัวล็อกลิ้นชัก
  • สอนเด็กไม่ให้ปีนเฟอร์นิเจอร์

9. อุบัติเหตุจากสัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุภายในบ้านได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินสะดุดสัตว์เลี้ยงจนล้ม การถูกกัดหรือข่วน รวมถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพ เพราะสัตว์เลี้ยงอาจนำเชื้อโรคมาสู่คนในบ้านได้ หากไม่ได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสม

วิธีป้องกัน:

  • ฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน
  • ฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
  • จำกัดพื้นที่สัตว์เลี้ยงในจุดเสี่ยง
  • สอนเด็กปฏิบัติตัวกับสัตว์อย่างถูกต้อง
  • ใช้สายจูงเมื่อพาออกนอกบ้าน

10. การบาดเจ็บจากเครื่องออกกำลังกาย

อุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้านอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากใช้งานผิดวิธีหรือขาดการดูแล เช่น ลืมล็อกอุปกรณ์ ใช้น้ำหนักหรือความเร็วเกินกำลัง ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น

วิธีป้องกัน:

  • อ่านคู่มือใช้งานก่อนใช้
  • ตรวจความแน่นและความปลอดภัยของอุปกรณ์
  • เคลียร์พื้นที่รอบเครื่อง
  • ใส่รองเท้าและชุดที่เหมาะสม
  • เก็บอุปกรณ์ให้พ้นมือเด็ก

ความสำคัญของการมีประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ

แม้เราจะระมัดระวังมากแค่ไหน อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด การมีประกันชีวิตอุบัติเหตุจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยคุ้มครองทางการเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุภายในบ้าน

การทําประกันอุบัติเหตุในปัจจุบันทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ช่วยให้คุณและครอบครัวมีความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งภายในและนอกบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบ้านของคุณมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้าน การทําประกันอุบัติเหตุจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้อย่างมั่นใจ

สำหรับครอบครัวที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเข้าถึงง่าย การซื้อประกันอุบัติเหตุผ่านช่องทางออนไลน์เป็นทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว และได้รับความคุ้มครองทันที ช่วยให้คุณมีความมั่นใจว่าทุกคนในครอบครัวจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

อุบัติเหตุภายในบ้านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงและบ่อยกว่าที่คิด การป้องกันอย่างเหมาะสมร่วมกับการมีประกันชีวิตอุบัติเหตุที่ดีจะช่วยให้คุณและครอบครัวมีความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น อย่าลืมว่าการลงทุนในความปลอดภัยและการคุ้มครองทางการเงินคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก