เงินบาทแข็งค่าสุด ทุบสถิติใหม่รอบ 5 เดือน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนนับจาก 7 ก.ย. 64

นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (15ก.พ.) ที่ระดับ  32.44 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  32.53 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ32.35-32.55 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เขามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจเริ่มจำกัดลงและเงินบาทจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบsideways เพราะแม้ว่า เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าที่คาดจนหลุดแนวรับที่ได้ประเมินไว้ จากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้อทั้งหุ้นไทยและบอนด์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ  แต่ แนวโน้มเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ยังคงกดดันให้ตลาดปิดรับความเสี่ยงและหนุนให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดนั้น จะช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี ควรจับตาแนวโน้มฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติว่ายังคงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยสุทธิต่อเนื่องหรือไม่ รวมถึง ทิศทางของราคาทองคำซึ่งหากราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าผู้เล่นในตลาดก็ยังคงทยอยขายทำกำไรต่อและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็จะช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทยคาดว่า ฝั่งผู้นำเข้าต่างจะมารอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วง 32.40 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ระดับดังกล่าวยังเป็นโซนแนวรับที่สำคัญได้ในระยะสั้นนี้ ส่วนฝั่งผู้ส่งออกอาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วง 32.80 จนถึง33.00 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับภาพรวมตลาดการเงินยังคงผันผวนรุนแรงและไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจบานปลายสู่สงครามได้ นอกจากนี้ ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดสาย Hawk อย่าง James Bullard ที่ยังคงออกมาสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

ผู้เล่นในตลาดสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ส่งผลให้ ดัชนีหุ้น S&P500 ปรับตัวลง -0.49% ส่วนดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยถึงแม้หุ้นเทคฯ จะเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด แต่ความเสี่ยงปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ แกว่งตัวใกล้ระดับ 1.98% ต่อ

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวลดลงกว่า -2.18% จากความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจนำไปสู่สงครามได้ทุกเมื่อ โดยแรงเทขายหนักกระจุกตัวในหุ้นกลุ่ม Cyclical ที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า อาทิ กลุ่มการเงิน BNP Paribas -4.9%, ING -3.9%, Santander -3.9%