ระเบิดฆ่าตัวตายถล่มมัสยิดมุสลิมชีอะห์ในเปชวาร์ ปากีสถาน ดับสลด 56 ราย เจ็บ 194

ทหารยืนเฝ้าอยู่ในมัสยิดหลังเกิดเหตุระเบิดในเมืองเปชาวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2565 (ภาพโดย AFP)

เอบีซี – มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดมุสลิมชีอะห์ ในเมืองเปชวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ระหว่างการละหมาดวันศุกร์ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ส่งผลให้มีผู้มาละหมาดอย่างน้อย 56 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 194 คน

ยังไม่มีกลุ่มติดอาวุธใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว  ทั้งจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มตาลีบันแห่งปากีสถาน ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธคนละกลุ่มจากกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน พวกเขาเคยดำเนินการโจมตีในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนในพื้นที่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน

แผนกประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลเลดี้รีดดิง (Lady Reading Hospital) แห่งเมืองเปชวาร์ระบุ ผู้บาดเจ็บจำนวนมากอยู่ในอาการสาหัส เหยื่อจำนวนมากถูกเศษกระสุนเต็มไปหมด หลายคนถูกตัดแขนขา และคนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บจากเศษสะเก็ดระเบิด

ผู้บัญชาการตำรวจเมืองเปชวาร์ กล่าวว่า ความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้โจมตีติดอาวุธเปิดฉากยิงใส่ตำรวจนอกมัสยิด ตำรวจคนหนึ่งเสียชีวิตในการดวลปืน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ผู้โจมตีจึงวิ่งเข้าไปในมัสยิดและจุดชนวนระเบิดเสื้อพลีชีพของเขา

ตำรวจระดับสูงอีกคนบอกว่า ภายในไม่กี่วินาที ก็เกิดการระเบิดอันรุนแรง เสื้อพลีชีพนั้นบรรจุด้วยตลับลูกปืน ซึ่งเป็นวิธีการสร้างระเบิดที่ร้ายแรงเพื่อสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ขนาดใหญ่ ตลับลูกปืนทำให้มีผู้เสียชีวิตในจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่กล่าวว่า การระเบิดเกิดขึ้นขณะที่ผู้มาละหมาดมารวมตัวกันที่มัสยิดกูชา ริซัลดาร์ เพื่อละหมาดวันศุกร์ เขาเสริมว่า มีความกลัวว่ายอดผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้นอีก

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน อิมราน ข่าน ได้ออกมาประณามเหตุระเบิดนี้ ขณะที่ มูอีด ยูซุฟ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเขากล่าวว่า การวางระเบิดดังกล่าวเป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ชั่วร้าย” และสัญญาว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารครั้งนี้จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลพิจารณาโทษ

กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านประณามการโจมตีดังกล่าว โดยกล่าวว่าผู้กระทำความผิดมีเจตนาที่จะ “สร้างความไม่ลงรอยกันในหมู่ชาวมุสลิม” ในคำแถลงบนเว็บไซต์ของกระทรวง ซาอีด คาติซาเดห์ โฆษกกระทรวงแสดงความหวังว่ารัฐบาลปากีสถานจะยุติการโจมตีดังกล่าวด้วย “การดำเนินการอย่างแข็งขัน”

ชาวมุสลิมซุนนีเป็นประชากรส่วนใหญ่ในปากีสถาน ชาวชีอะห์กลุ่มน้อยถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ประเทศประสบกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเจ้าหน้าที่ทหารหลายสิบนายถูกสังหารในการโจมตีหลายครั้งในด่านหน้าของกองทัพตามแนวพรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน

กลุ่มตอลิบานของปากีสถานออกมาอ้างสิทธิ์การโจมตีหลายครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานที่สามารถยึดอำนาจในอัฟกานิสถานเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ปากีสถานได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองใหม่ของอัฟกานิสถานส่งตัวกลุ่มติดอาวุธตอลิบานแห่งปากีสถานที่มักเตรียมการโจมตีจากอัฟกานิสถาน กลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานกล่าวว่าจะไม่ยินยอมให้ดินแดนของพวกเขาถูกใช้ในการโจมตีผู้ใด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ส่งมอบผู้ก่อการร้ายที่ปากีสถานที่ต้องการตัว