ความในใจจากเจ้าของที่ดินปอเนาะญิฮาด เมื่อศาลสังยึดตามพรบ.ฟอกเงิน

10 กว่าปีทีปอเนาะญิฮาดในสวนมะพร้าวแห่งนี้ถูกทางการสั่งปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2548  ห้องเรียนถูกทิ้งร้างว่างเปล่า บ้านพักนักเรียนหลังเล็กๆ ผุพังไปตามกาลเวลา เนื้อที่ว่างใกล้ๆ กลายเป็นแปลงผัก ปลูกพริก เพื่อความอยู่รอดของสมาชิกจำนวน 14 ชีวิตในครอบครัวแวมะนอที่ยังคงอาศัยในบ้านที่อยู่ภายในบริเวณเดียวกับโรงเรียน

เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ฟ.26/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส.3 ) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาท อันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ “ปอเนาะญิฮาด” ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้าย

photo 4ศิษย์เก่า นักเรียนที่ต้องออกไปเรียนที่อื่น ผู้ที่ติดตามในเรื่องนี้และอีกมากหน้าหลายตาเข้ามาถามไถ่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปอย่างไร ซึ่งทางครอบครัวแวมะนอก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนได้เพราะยังไม่เห็นเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งต้องรออีกระยะหนึ่ง ในขณะที่คดีสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันตั้งแต่มีคำพิพากษา

นางยาวาฮี แวมะนอ
นางยาวาฮี แวมะนอ

นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของนายดูนเลาะ แวมะนอ ผู้ถูกกล่าวหากล่าวว่า  รู้สึกไม่เป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัว เพราะที่ดินผืนนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของสามี

“เขาเป็นแค่ลูกเขย ที่มาเป็นครูใหญ่สอนปอเนาะนี้เพราะพ่อ (นายบารอเฮง เจะอาแซ) ที่เป็นเจ้าของจริงๆ แก่มากแล้วจึงให้กะแต่งงานแล้วมาดูแลปอเนาะแทนพ่อ ตอนนี้พ่อก็ตายแล้ว ที่ดินจึงตกเป็นของลูกทั้ง 5 คนคือ นางยาวาฮี แวมะนอ  คือกะเอง นางปารีเดาะ เจะมะ  นางหามีย๊ะ สาแลหมัน  นายอาดือนัน เจะอาแซ และนายอับดุลเลาะ เจะอาแซ  ทั้ง 5 คนเป็นพี่น้องกับกะ ที่มีชื่อร่วมในกรรมสิทธิ์ น.ส.3  ส่วนนายดูนเลาะไม่มีสิทธิ์ เขามาเป็นแค่ครูใหญ่”

“ถ้าหากกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุดแล้ว จะมีการยึดที่ดินจริงๆ ก็พร้อมที่จะออกไปอยู่ข้างนอก แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ยอมให้ออกไปอยู่ที่อื่น พวกเขาต้องการให้อยู่ที่นี่ ยกที่ดินให้ครอบครัวสร้างบ้านและจะช่วยสร้างบ้านให้ครอบครัวเราอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ยังมีเวลาอีก 20 กว่าวัน ที่จะสามารถทำเรื่องอุทธรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับครอบครัวว่าจะทำยังไงต่อกันดี”

นายบัลยาน แวมะนอ
นายบัลยาน แวมะนอ

ด้านนายบัลยาน แวมะนอ ลูกชายคนที่สามของนายดูนเลาะ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดในการยึดที่ดินว่าเป็นความผิดตามเหตุผลใด มีความชอบธรรมหรือไม่ หากในความรู้สึกลึกๆ ยังรับไม่ค่อยได้กับคำสั่งศาล เพราะที่ดินผืนนี้เป็นบ้านเกิด แต่ในทางกฎหมายก็ต้องยอมรับ ทางศูนย์ทนายความมุสลิม ได้แนะนำว่าต้องรอฟังผลคำพิพากษาที่เป็นเอกสารอีกประมาณ 15-20 วัน

“บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่ในที่ดินผืนนี้ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ปลูกพริก กำลังเตรียมพื้นที่ลงต้นกล้าพริก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ต้องย้ายกันทั้งครอบครัว ผมมีลูกอีก 2 คน และครอบครัวคนอื่นอีก ตอนนี้คิดมาก คิดเต็มหัวว่าจะย้ายไปไหน เพราะไม่มีที่ดินแล้ว เมื่อข่าวถูกยึดที่ดินออกมา ศิษย์เก่า คนในพื้นที่ คนที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่มีการอายัด ขึ้นศาล จนถึงปัจจุบัน ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาชาวบ้านก็มาเยี่ยมกันเมื่อทราบข่าวถูกยึดที่ดิน ทุกคนงงกันไปหมดว่าเพราะอะไร ใครผิด มีคำถามที่เราก็ตอบไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับพ่อและที่ดินอย่างไร  พ่อเป็นแค่ผู้รับในอนุญาต ที่ดินไม่ใช่ของพ่อ  หากพ่อผิดตามกฎหมายต้องไปยึดที่ดินของพ่อ แต่ที่นี่ไม่ใช่” ลูกชายของนายดูนเลาะ กล่าว

photo 1