เจ้าหน้าที่สหรัฐและอิหร่านได้จัดการเจรจาในทางลับ รวมถึงการเจรจาทางอ้อมในโอมาน เพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาค ในความพยายามที่จะยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานและปล่อยตัวนักโทษชาวอเมริกัน
ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับลักษณะของการเจรจา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากล้มเหลวหลายครั้งในความพยายามฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งกำหนดข้อจำกัดต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตร ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจหลายประเทศ
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงสำคัญนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อว่า “แผนปฏิบัติการร่วมที่ครอบคลุม” (JCPOA) เมื่อห้าปีที่แล้ว และทรัมป์ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เขาเรียกว่า “การกดดันสูงสุด” ต่ออิหร่าน
ทำไมต้องเก็บการเจรจาเป็นความลับ?
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายกำลังมองหาข้อตกลงระยะสั้นที่มีวัตถุประสงค์สำคัญ แทนที่จะรอการฟื้นฟูข้อตกลงปี 2015 ซึ่งหยุดชะงักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การเจรจาดังกล่าวบ่งบอกถึงการกลับมาใช้ช่องทางการทูตในรูปแบบหนึ่งระหว่างสองฝ่ายที่เป็นศัตรูกัน
นาสเซอร์ คาเนอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ดูเหมือนจะยืนยันการเจรจาในงานแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวว่า “การเจรจาในมัสกัต (เมืองหลวงโอมาน) ไม่ใช่ความลับ” ตามที่รายงานโดยสำนักข่าวตัสนีมของอิหร่าน แต่เสริมว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเจรจาข้อตกลงที่แยกต่างหากจาก JCPOA
แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธว่าไม่มีการเจรจาข้อตกลงใดๆ กับอิหร่าน
มหจูบ ซเวอิรี ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษานานาชาติเซ็นเตอร์แห่งมหาวิทยาลัยกาตาร์ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ต้องการที่จะดูเหมือนว่ากำลัง “ยอมอ่อนข้อให้อิหร่าน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า
ซเวอิรีบอกกับสำนักข่าวอัลจาซีรา ว่า พวกเขายังไม่ต้องการให้อิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ โจมตีตัวแทนของอิหร่าน เพราะอาจทำให้ “สถานการณ์ในภูมิภาคนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น” ซไวรีกล่าวกับอัลจาซีรา
มี “ข้อตกลงชั่วคราว” หรือไม่?
ตามที่คอร์เนลิอุส อเดบาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่านและผู้ช่วยวิจัยที่สถาบัน Carnegie Europe กล่าว ในขณะนี้ยังไม่มี “ข้อตกลงใหม่” ให้พูดถึง แม้แต่ข้อตกลงที่ไม่เป็นทางการก็ตาม
ข้อตกลงล่าสุดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้อิหร่านได้รับเงินชำระหนี้ค้างจากอิรัก ถือเป็นก้าวบวกสำหรับอิหร่าน ในขณะที่สำหรับสหรัฐฯ มันเป็นเพียงการ “การกลับทิศของแนวโน้มที่อันตรายจากการไม่จัดการกับความก้าวหน้านิวเคลียร์ของเตหะราน” อเดบาร์บอกกับสำนักข่าว Al Jazeera
อิหร่านยืนหยัดในจุดยืนที่ว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์เพื่อสันติ และโครงการขีปนาวุธของตนไม่ควรรวมอยู่ใน JCPOA ที่รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่
สหรัฐฯ น่าจะต้องการนอกเหนือจากการกำหนดข้อจำกัดในโครงการนิวเคลียร์และอาวุธของอิหร่าน ยังต้องการให้มีการปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกคุมขังในอิหร่าน จำกัดบทบาทของอิหร่านในสงครามรัสเซีย–ยูเครน และพยายามรักษาเสถียรภาพตลาดพลังงานและราคาน้ำมัน
ข้อตกลงระยะสั้นเป็น “ผลดีสำหรับทั้งสองฝ่าย” เนื่องจากจะไม่ดูเหมือนการยอมอ่อนข้อใหญ่ และในขณะเดียวกันก็จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ ซเวอิรีกล่าว
ข้อตกลงชั่วคราวยังไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ซึ่งหลายคนคัดค้านการให้ประโยชน์แก่อิหร่านเนื่องจากการทีอิหร่านให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่รัสเซีย
อิหร่านได้ให้โดรนแก่รัสเซีย ซึ่ง “ทำให้ตะวันตกไม่พอใจ” ซเวอิรีกล่าวเสริมว่านี่เป็น “ความยุ่งยากที่สำคัญ” ต่อข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับตะวันตก
เตหะรานยืนกรานว่าพวกเขาส่งโดรนให้รัสเซียหลายเดือนก่อนสงคราม และต้องการให้การสู้รบยุติลงผ่านการเจรจา
อะไรคือประโยชน์สำหรับอิหร่านจากข้อตกลงนี้?
ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้ อาจช่วยป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ในอนาคตอันใกล้ปะทุขึ้น และป้องกันไม่ให้ฝ่ายตะวันตกพยายามใช้กลไก “snapback” (ย้อนกลับ) ของข้อตกลงซึ่งออกแบบมาเพื่อรื้อฟื้นการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่อเตหะรานในกรณีที่ละเมิดข้อตกลง
นอกจากนี้ ยังอาจทำให้วอชิงตันและพันธมิตรในยุโรปงดเว้นจากการผลักดันมติลงโทษเพิ่มเติมใดๆ ต่ออิหร่าน ในคณะผู้ว่าการของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) มติตำหนิครั้งที่สองในลักษณะนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วได้กระตุ้นให้อิหร่านเพิ่มการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่โรงงานนิวเคลียร์สำคัญแห่งหนึ่ง
อิหร่านยังอาจคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะปลดล็อกทรัพย์สินของอิหร่านมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ถูกอายัดในต่างประเทศโดยใช้การยกเว้นการคว่ำบาตร โดยมีเงื่อนไขว่าสามารถใช้ได้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมเท่านั้น ผู้ว่าการธนาคารกลางอิหร่านอยู่ที่โดฮาเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ส่งสัญญาณว่ากาตาร์อาจมีส่วนในการอำนวยความสะดวกในกระบวนการนี้
นสพ.เดอะโคเรียนอิโคโนมิคเดลี่ (The Korea Economic Daily) รายงานในเดือนพฤษภาคมว่า ทางเกาหลีใต้กำลังหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับวิธีการชำระเงินให้อิหร่านสำหรับน้ำมันมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ที่ซื้อไป
อิรักเพิ่งจ่ายเงินค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้า 2,760 ล้านดอลลาร์ให้อิหร่าน หลังจากได้รับการยกเว้นการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
อะไรคือประโยชน์สำหรับสหรัฐฯ และพันธมิตรจากเรื่องนี้?
อิหร่านได้เพิ่มกิจกรรมทางนิวเคลียร์ตั้งแต่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจาก JCPOA โดยกล่าวว่าไม่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง
สหรัฐฯ ดูเหมือนจะพอใจกับการรักษาระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านในระดับปัจจุบัน โดยรายงานของ นิวยอร์คไทมส์ระบุว่าสหรัฐฯ กำลังเรียกร้องให้อิหร่านงดเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์เกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่ทำในปัจจุบัน ยูเรเนียมเกรดอาวุธต้องมีความบริสุทธิ์ที่ 90 เปอร์เซ็นต์
การเปลี่ยนยูเรเนียมเป็นเกรดอาวุธเป็นขั้นตอนทางเทคนิคที่สั้น แต่ข่าวกรองตะวันตกและ IAEA ระบุว่า พวกเขาไม่มีหลักฐานว่าเตหะรานได้ทำการก้าวไปในทิศทางนั้น และผู้นำสูงสุด อะยาโตลาห์ อาลี คาเมเนอี กล่าวว่า ข้ออ้างที่ว่าอิหร่านต้องการระเบิดเป็น “ข้ออ้าง” เท็จของชาติตะวันตก
นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า อิหร่านอาจตกลงที่จะไม่ยึดเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติ หากสหรัฐฯ ทำเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันด้วยเหตุผลต่างๆ รวมถึงรายงานอุบัติเหตุและคำสั่งศาล โดยสื่อมวลชนตะวันตกระบุว่าสาเหตุมาจากการที่สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกน้ำมันของอิหร่าน
นักโทษชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านสามคนอาจได้รับการปล่อยตัวหากสหรัฐฯ ปล่อยทรัพย์สินทางเศรษฐกิจบางส่วนของอิหร่าน
ชาวอังกฤษเชื้อสายอิหร่านสองคนที่ถูกคุมขังได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยสื่อรายงานว่ารัฐบาลอังกฤษได้ชำระหนี้มูลค่า 400 ล้านปอนด์ (513 ล้านดอลลาร์) ให้กับเตหะราน ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนการปฏิวัติอิสลามในปี 1979
—————
แปล/เรียบเรียงจาก https://www.aljazeera.com/