คุณรู้ไหมว่าแค่การ นอนไม่หลับเรื้อรัง (Chronic Insomnia) ก็อาจทำให้สมองแก่เร็วกว่าปกติถึง 3.5 ปี และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมอย่างอัลไซเมอร์ได้จริงๆ!
ทำไมนอนไม่หลับถึงเกี่ยวกับสมองเสื่อม?
นักวิจัยจาก Mayo Clinic ศึกษาผู้สูงอายุ 2,750 คน นานกว่า 5 ปี พบว่า คนที่มีอาการนอนไม่หลับอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 3 เดือน มีความเสี่ยงเป็น ภาวะสมองเสื่อมและความบกพร่องทางสติปัญญา (Mild Cognitive Impairment) สูงกว่าคนทั่วไปถึง 40%
ที่น่าตกใจคือ สมองของคนกลุ่มนี้เสื่อมลงในระดับที่เทียบได้กับ อายุมากขึ้น 3.5 ปี เลยทีเดียว
อะไรเกิดขึ้นกับสมอง?
งานวิจัยพบว่า ผู้ที่นอนไม่พอมีการเปลี่ยนแปลงในสมอง เช่น
-
White matter เสื่อม → การสื่อสารของสมองติดขัด
-
โปรตีนพิษ amyloid plaques สะสมมากขึ้น → ตัวการสำคัญของอัลไซเมอร์
-
ทักษะความจำและการคิดลดลงเร็วกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น หากมี ยีน APOE ε4 (ที่เพิ่มความเสี่ยงอัลไซเมอร์) การนอนไม่หลับยิ่งทำให้การเสื่อมของสมองเร็วขึ้นไปอีก
ใครบ้างที่เสี่ยงนอนไม่หลับเรื้อรัง?
-
ผู้หญิง
-
คนอายุเกิน 60 ปี
-
ผู้ดื่มแอลกอฮอล์
-
คนที่มีความเครียดสูง
นอกจากนี้ยังสัมพันธ์กับโรคอื่น เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะซึมเศร้า และวิตกกังวล
วิธีดูแลตัวเองถ้า “นอนไม่หลับบ่อยๆ”
ข่าวดีคือ นอนไม่หลับเรื้อรังรักษาได้ หากเริ่มปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพสมองควบคู่กัน เช่น
-
Sleep Hygiene → เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลา เลี่ยงจอมือถือก่อนนอน
-
ดูแลสุขภาพจิต → ทำสมาธิ หรือเข้าพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
-
ออกกำลังกายและโภชนาการที่ดี → ช่วยลดความเสี่ยงสมองเสื่อม
-
ปรึกษาแพทย์ → ในบางกรณีอาจใช้ยาหรือการบำบัด เช่น CBT-I
การนอนไม่หลับไม่ใช่แค่เรื่องทำให้หงุดหงิดในวันถัดไป แต่กำลังบั่นทอนสมองในระยะยาวด้วย การใส่ใจเรื่อง คุณภาพการนอน ตั้งแต่ตอนนี้ อาจช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมและทำให้เราแก่ช้าลงทั้งกายและใจ
อ้างอิง independent








