ปากีสถานชี้ ปาเลสไตน์ต้องมีพรมแดน “ก่อนปี 1967” และอัลกุดส์เป็นเมืองหลวง

นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชาริฟ ของปากีสถาน ระบุชัดในที่ประชุมผู้นำระดับสูงของสหประชาชาติว่า ชุมชนระหว่างประเทศควรรับรองรัฐปาเลสไตน์ภายใต้พรมแดน ก่อนปี 1967 เป็นอย่างน้อย และให้ อัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม) เป็นเมืองหลวง มิดเดิลอีสต์อายรายงาน

พรมแดนดังกล่าวหมายถึงเวสต์แบงก์ซึ่งถูกยึดครองและฉนวนกาซา หลังสงครามปี 1967 โดยสหประชาชาติถือว่าการตั้งฐานปฏิบัติการของอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายตามมติคณะมนตรีความมั่นคงฉบับที่ 446

เขายังใช้คำว่าอัลกุดส์โดยไม่จำกัดเฉพาะกรณีเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งต่างจากท่าทีบางส่วนของนานาชาติในอดีตและการตัดสินของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนนโยบายเมื่อปี 2019 ให้ถือว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

เชห์บาซเตือนว่าประเทศปาเลสไตน์ “ไม่อาจอยู่ใต้อาณัติของอิสราเอลต่อไปอีก” และเรียกร้องให้มีการปลดปล่อยทันที

“ความอยุติธรรมที่ยืดเยื้อนี้เป็นมลทินบนจิตสำนึกโลก และเป็นความล้มเหลวทางศีลธรรมร่วมกันของเรา ตลอดเกือบ 80 ปี ชาวปาเลสไตน์ต้องอดทนต่อการยึดครองบ้านเกิดโดยอิสราเอลอย่างโหดร้าย” เขากล่าว และย้ำถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเวสต์แบงก์จากกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายที่ “ล่วงละเมิดและสังหารโดยไร้การลงโทษ โดยไม่มีใครสามารถท้าทายและตั้งคำถามกับพวกเขาได้”

เกี่ยวกับกาซา เชห์บาซกล่าวอย่างเผ็ดร้อนถึง “การโจมตีที่มีลักษณะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ของอิสราเอลที่กระทำต่อผู้หญิงและเด็ก ในลักษณะที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ ผู้นำอิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการอันน่าละอายต่อชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ความปรานีเพื่อบรรลุเป้าหมายอันชั่วร้าย จนเขาเห็นว่าเป็นหนึ่งใน “บทมืดที่สุดในประวัติศาสตร์” ของมนุษยชาติ

ในคำกล่าวของเขา เชห์บาซยังอ้างถึงกรณีเด็กหญิงหินด์ ราจับ อายุ 6 ปี ซึ่งเสียชีวิตพร้อมสมาชิกครอบครัวจากการถูกยิงโดยกำลังอิสราเอลในกาซา และกล่าวสะท้อนความเจ็บปวดว่า “คุณจะจินตนาการถึงเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นได้ไหม… เสมือนเธอเป็นลูกของเราได้ไหม? เราล้มเหลวต่อหินด์ ราจับ” ถ้อยคำที่สะกดผู้ฟังให้เงียบงัน