ปัตตานี – คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี มีคำชี้แจงขอแสดงความเสียใจ และขอแสดงการไม่สนับสนุน ไม่ยอมรับการกระทำของพระมหาอภิชาติ ปุฌณจนโท กรณีเผยแพร่สื่อออนไลน์ สร้างความสับสน และสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวพุทธ-มุสลิม พร้อมเรียกร้องประชาชนอย่าได้ให้การสนับสนุนการกระทำของพระมหาอภิชาต
วันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า ศูนย์ข้อมูลมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี มีคำชี้แจงขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง และขอแสดงการไม่สนับสนุน ไม่ยอมรับการกระทำของ พระมหาอภิชาติ ปุฌณจนโท กรณีเผยแพร่สื่อออนไลน์
โดยคณะกรรมการฝ่ายการปกครอง คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี มีคำชี้แจง กรณี พระมหาอภิชาต ปุฌณจนโท ตอบโต้กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติฯ ว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่การออกมาแถลงด้วยวาจะทางสื่อสารออนไลน์ของ พระมหาอภิชาติ ปุฌณจนโท ในการพูดถึงกรณีความขัดแย้งในเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยได้แสดงออกทางกาย และทางวาจาอันประกอบไปด้วยลักษณะมีโทสะเป็นที่ตั้ง แสดงอาการเกรี้ยวกราด โกรธแค้น ชิงชัง คุกคาม ใช้วาจาหยาบคาย ข่มขู่ผู้ที่ตนถือเป็นฝ่ายตรงข้าม อันเป็นเหตุนำมาซึ่งความเข้าใจผิดในภิกษุภาวะตามความเป็นจริง และถือเป็นการบิดเบือนหลักคำสอนที่แท้จริงของพุทธศาสนา
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นกรณีพิเศษเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารที่ระลึก 101 ปี พระอาจารย์ทิม วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง โดยประธานกรรมการฝ่ายการปกครอง คณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี และกรรมการ จำนวน 8 รูป และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการอีกหนึ่งท่าน และได้ออกคำชี้แจ้งนี้เพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน คำชี้แจ้งนี้มีข้อสรุปดังนี้
1.ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำในครั้งนี้ (การแถลงด้วยวาจะทางสื่อสารออนไลน์) ของพระมหาอภิชาต ปุฌณจนโท 2.การกระทำครั้งนี้เป็นการบิดเบือนคำสอนในทางพระพุทธศาสนา 3.การกระทำครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ อันจะก่อเกิดความหวาดระแวงต่อกัน 4.การกระทำครั้งนี้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในภาวะของการเป็นพระภิกษุ-สามเณร ในพุทธศาสนาของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก 5.ขอให้คณะสงฆ์ และประชาชนอย่าได้ให้การสนับสนุนการกระทำของพระมหาอภิชาต ปุฌณจนโท ในครั้งนี้ 6.คณะกรรมการฝ่ายการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง และขอแสดงการไม่สนับสนุนไม่ยอมรับการกระทำของพระมหาอภิชาติ ปุฌณจนโท ในครั้งนี้
โดย นายรักชาติ สุวรรณ์ ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ปัญหา 3 จชต.ที่หลายภาคส่วนกำลังช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง ถึงแม้อาจจะมีกลุ่มคนทั้งพุทธ และมุสลิม พยายามจะให้ปัญหานี้เป็นประเด็นทางศาสนา แต่สิ่งที่เกิดมิใช่ปัญหาทางด้านศาสนาเลย เพราะทั้งพุทธ และมุสลิม รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างก็สูญเสีย และได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น เราอยู่ในพื้นที่ไม่เคยแบ่งแยกศาสนาใดๆ เพราะต่างก็เติบโตมาบนแผ่นดินแห่งนี้ด้วยกัน”
“สิ่งที่ พระอภิชาติ พูดนั้นคนพุทธในพื้นที่ไม่ได้เห็นชอบด้วย แต่ก็อาจจะมีกลุ่มคนที่คิดตามด้วยได้เช่นกัน เมื่อคนพูดคนคิดตามอยู่นอกพื้นที่ ประเด็นนี้มันสร้างความแตกแยกจากคนนอกพื้นที่อย่างเห็นได้ชัดเจน ผลร้ายคงจะตกกับคนในพื้นที่ การแก้ปัญหาในพื้นที่ไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ ต้องอาศัยความเข้าใจกัน การคุยกันมากกว่า และเห็นว่าในประเด็นความรุนแรงในพื้นที่ คนมุสลิมเห็นชอบด้วยทุกคนหรือไม่ มันก็คงไม่ใช่เช่นกัน คนมุสลิมส่วนใหญ่เขาก็ต้องการอยู่ร่วมกันด้วยความสงบ พระภิกษุ คนพุทธในพื้นที่ก็ไม่เอาด้วยกับความรุนแรง เราต้องการทำมาหากินกันแบบปกติเหมือนกัน” นายรักชาติ สุวรรณ์ กล่าวเสริม
“ในกรณีการเผยแพร่คลิปที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการใช้ความ รุนแรงทั้งฝ่ายพุทธ และมุสลิม ทำไมรัฐถึงไม่ดำเนินการในการปิดคลิปเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการยุติ หรือจำกัดการเผยแพร่การสร้างความเกลียดชังในสังคม ขอชื่นชมการเผยแพร่คำชี้แจงของคณะสงฆ์ปัตตานีที่หน้าที่สร้างความร่มเย็น และสร้างบรรยากาศสันติภาพไปพร้อมๆ กัน” นายรักชาติ สุวรรณ์ กล่าว
ขอบคุณ/ ที่มา http://manager.co.th/South