สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ในประเทศสร้างความหวาดวิตกกังวลในหมู่ประชาชนชาวไทย รวมถึงชาวมุสลิมโดยเฉพาะต่อประเด็นการประกอบศาสนกิจที่สำคัญ เช่นละหมาดวันศุกร์ ซึ่ง “อิหม่าม ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ” ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี ประจำภาคใต้ ได้ออกมาชี้แจงว่า ไทยไม่ได้อยู่ขั้นวิกฤติถึงขั้นต้องวินิจฉัยให้ระงับการละหมาดวันศุกร์ไว้ก่อน
โดย อิหม่าม ดร.วิสุทธิ์ ได้โพสต์ในเฟสบุ๊กส่วนตัวให้มุสลิมไทยได้คลายกังวลว่า
“เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤติถึงขั้นฟัตวา (วินิจฉัยทางศาสนา) ให้ระงับการละหมาดวันศุกร์ไว้ก่อน ตรงกันข้ามคุฏบะฮวันศุกร์ควรเป็นเวทีการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคร้าย แนวทางอิสลามในการดูแลตนเองและสังคมในยามวิกฤติ และให้สังคมมุสลิมทบทวนตนเองเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าแห่งหลักธรรมอิสลาม ซึ่งหากนำมาใช้อย่างจริงจัง จะทำให้มนุษย์มีความมั่นคงทางด้านสุขภาวะอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่มาละหมาดวันศุกร์พึงดูแลและปกป้องตัวเองจากโรคร้าย ในแง่กายภาพด้วยการอาบน้ำละหมาดอย่างดี อาจใส่หน้ากากอนามัย และพาเสื่อสะญาดะฮจากบ้านไปเอง ส่วนในแง่จิตภาพคือการละหมาดอย่างบริสุทธิ์ใจพร้อมด้วยสมาธิ เพื่อเพิ่มพูนภูมิต้านทานในร่างกายให้มากขึ้น
อนึ่ง การฟัตวาให้ระงับละหมาดวันศุกร์ไว้ก่อน เพราะกลัวโรคโควิด -19 โดยมุฟตีบางคนในต่างประเทศ น่าจะเป็นอาการแพนิคของผู้ฟัตวาเองมากกว่า ส่วนสำนักจุฬาราชมนตรีไม่เคยฟัตวาในทำนองนั้นนะครับ”