การตัดสินใจของอิสราเอลในการทำลายข้อตกลงหยุดยิงและกลับมาโจมตีกาซาสะท้อนถึงปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์ การเมือง และการทหารที่ซับซ้อน โดย มัรวาน บิชารา (Marwan Bishara) นักวิเคราะห์การเมืองอาวุโสของอัลจาซีรา ระบุถึง สามเหตุผลหลัก ที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการครั้งนี้
1. เหตุผลทางทหาร: ความมุ่งมั่นในการทำลายฮามาส
นับตั้งแต่เริ่มสงคราม นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเป้าหมายสูงสุดของอิสราเอลคือการทำลาย ฮามาส อย่างสิ้นเชิง แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง แต่การปล่อยตัวเชลยศึกของฮามาสในลักษณะที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กลับถูกมองว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของชัยชนะให้กับกลุ่มติดอาวุธ และเป็นการทำให้อิสราเอล “อับอาย” ในสายตาผู้สนับสนุนของเนทันยาฮู
ดังนั้น ฝ่ายขวาของอิสราเอลมองว่าการทำสงครามต่อไปเป็นทางเดียวที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีและเสริมสร้างอำนาจทางการทหารของอิสราเอลในภูมิภาค
2. เหตุผลเชิงยุทธศาสตร์: แผนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของกาซา
บิชารา ชี้ว่า อิสราเอลกำลังดำเนินตามแนวคิดที่คล้ายคลึงกับนโยบายของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองว่าการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเกิดสงคราม
แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงทฤษฎี แต่มีการพูดถึงในวงการเมืองฝ่ายขวาของอิสราเอลมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่าอิสราเอลได้หารือกับอียิปต์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการส่งชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไปยังคาบสมุทรไซนาย ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในระดับที่มีนัยสำคัญต่ออนาคตของปาเลสไตน์
3. เหตุผลทางการเมือง: เนทันยาฮูต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากคดีทุจริต
เนทันยาฮูกำลังเผชิญกับ คดีคอร์รัปชันหลายคดี และต้องต่อสู้กับการต่อต้านจากภายในประเทศ ซึ่งการทำสงครามเป็นกลยุทธ์ที่มักถูกใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปัญหาภายใน
สงครามในกาซาทำให้เกิดความเป็นเอกภาพชั่วคราวในอิสราเอล และช่วยให้รัฐบาลของเขาได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายขวาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังทำให้กระบวนการพิจารณาคดีของเขาถูกลดความสำคัญลงในสายตาสาธารณะ