คุณเคยมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แน่นท้อง ไม่สบายท้อง เรอเปรี้ยวหลังมื้ออาหารหรือไม่? หากเคย อาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคกรดไหลย้อน ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามไป คิดว่าไม่ใช่อาการรุนแรงอะไร แต่ความจริงแล้ว อาการเหล่านี้ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ และควรได้รับการดูแลอย่างจริงจัง
เข้าใจกลไกการเกิดโรคกรดไหลย้อน
“โรคกรดไหลย้อน” คือโรคที่เกิดขึ้นเมื่อกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งปกติแล้วร่างกายของเราจะมี “กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง” ทำหน้าที่เสมือนประตูเปิด-ปิดระหว่างหลอดอาหารกับกระเพาะอาหาร เพื่อกั้นไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมา แต่ถ้าหูรูดนี้ คลายตัวหรือปิดไม่สนิท กรด หรือน้ำย่อยจะสามารถไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหารได้ง่าย ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว และอาการผิดปกติอื่น ๆ
7 สัญญาณอาการโรคกรดไหลย้อน รู้ก่อนจัดการได้
คุณอ๊อฟ ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ผู้ประกาศข่าว เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ และประสบกับโรคกรดไหลย้อนด้วยตัวเองได้ชวนทุกคนลองสังเกตตัวเองดูว่า มีอาการสัญญาณเตือนของโรคกรดไหลย้อนเหล่านี้หรือไม่ เพราะถ้าหากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อยจากกรดเกิน
- ไม่สบายท้อง แน่นท้อง จุกเสียด
- ปวดท้องช่วงบน จุกแน่นลิ้นปี่
- เรอเปรี้ยว
- คลื่นไส้ รู้สึกเหมือนมีน้ำย่อยไหลขึ้นมา
- แสบร้อนกลางอก
- แสบคอ จุกแน่นในลำคอ กลืนลำบาก

ความสำคัญของการรักษาอย่างถูกต้อง
ถึงโรคกรดไหลย้อนจะดูเหมือนเป็นอาการไม่รุนแรงในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้ และไม่รับการรักษาอย่างถูกต้อง หรือยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว อาการสามารถลุกลามจนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้
เพราะฉะนั้น การทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเลือกใช้ยารักษาอย่างเหมาะสม ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุม และป้องกันการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง (Lifestyle Modification)
บางพฤติกรรมที่ทำในชีวิตประจำวันหรือทำตามความเคยชิน เป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดกรดไหลย้อน และถ้าหากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ จะส่งผลให้ต้องเผชิญกับอาการแสนทรมานอยู่บ่อย ๆ จนรบกวนคุณภาพชีวิต
- การกินอาหารไม่ตรงเวลา
- การกินมากเกินไปในมื้อเดียว ควรแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ หลายมื้อ
- การกินแล้วนอนทันที ควรเว้นระยะเวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อรอให้อาหารย่อย
- การกินอาหารที่กระตุ้นอาการ เช่น ของมัน ของทอด อาหารรสเผ็ด เปรี้ยว แอลกอฮอล์
- การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มอัดลม
- การสูบบุหรี่เป็นประจำ
- การสะสมความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความสำคัญของการเลือกยาที่เหมาะสม
การรักษาโรคกรดไหลย้อนให้เห็นผล ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียงการปรับพฤติกรรมหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการเท่านั้น แต่ “การเลือกใช้ยาอย่างเหมาะสม” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยควบคุมอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังนั้น ควรเลือกใช้ยาลดกรดและบรรเทากรดไหลย้อนจากประเทศอังกฤษ ด้วย 2 กลไกการออกฤทธิ์ ทั้งปรับสภาพกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลาง และสร้างชั้นแพเจล ป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร ออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
แหล่งอ้างอิง:
สนับสนุนโดยกาวิสคอน
เมื่อมีอาการกรดไหลย้อน ต้อง ‘กาวิสคอน’ ยาบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อยเนื่องจากกรดไหลย้อน และลดกรดในกระเพาะอาหาร ด้วย 7 คุณสมบัติรักษาหลากหลายอาการจากกรดไหลย้อน
- อาหารไม่ย่อย
- แสบร้อนกลางอก
- กรดเกิน
- เรอเปรี้ยว
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
- ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร
- ใช้ได้ในผู้สูงอายุ
ด้วย 2 กลไกการออกฤทธิ์ ไม่เพียงลดกรดปรับสภาพกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลาง แต่ยังสร้างแพเจล ป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร ออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง






